มาทำความรู้จัก “สุนัขช่วยเหลือผู้พิการ” ให้มากขึ้นกันเถอะ!

แชร์ :

เมื่อพูดถึงสุนัข ทุกคนคงจะนึกถึงความน่ารักของมัน แต่นอกจากความน่ารักน่าเอ็นดูแล้ว สุนัขยังมีความสามารถที่พิเศษกว่านั้น เพราะสุนัขสามารถทำหน้าที่เป็น “สุนัขช่วยเหลือผู้พิการ” ได้ วันนี้ PetPlease จึงขอพาทุกไปทำความรู้จักกับสุนัขช่วยเหลือผู้พิการให้มากขึ้นครับ!

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการคืออะไรกันนะ ?

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการเป็นสุนัขที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด จากสถานฝึกสอนที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงคอยดูแล หน้าที่ของสุนัขเหล่านี้นั้นก็มีเพียงแค่อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตในสังคม ถึงแม้จะเหมือนว่าเป็นเรื่องง่าย ๆ เพียงแค่อำนวยความสะดวก แต่สุนัขเหล่านี้จะต้องฝึกฝนตัวเองอย่างยาวนานถึง 18 เดือนเลยทีเดียว เนื่องจากจำเป็นต้องมีทักษะมากพอ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่บกพร่องทางการได้ยิน การมองเห็น หรือบกพร่องทางร่างกาย

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการต่างจากสุนัขทั่วไปอย่างไร?

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการต่างจากสุนัขทั่วไป เพราะพวกเขาถูกฝึกมาเป็นพิเศษ และยังมีวิธีสังเกตสุนัขช่วยเหลือผู้พิการได้ง่าย ๆ ดังนี้

เข้า – ออกได้ทุกที่

ในบางสถานที่อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า จะมีกฏห้ามนำสนุกหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เข้ามายังภายในตัวอาคาร แต่สำหรับสุนัขช่วยเหลือผู้พิการนั้นจะได้รับการยกเว้นเป็นกรณีพิเศษจากฎหมาย เนื่องจากถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ เหมือนกับไม้เท้าหรือวีลแชร์นั่นเอง จึงเหตุผลว่าทำไมสุนัขช่วยเหลือผู้พิการเหล่านี้จึงสามารถเข้าและออกได้ทุกที่

มีเอกสารรับรอง

สุนัขที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อช่วยเหลือผู้พิการ เมื่อครบกำหนดฝึกฝนจะได้เอกสารรับรองจากหน่วยงาน Dog Certification of America หรือ Nation Service Animal Registry (NSAR) เพื่อเป็นสิทธิ์ให้น้องหมาสามารถเข้าพื้นที่สาธารณะที่มีการห้ามนำสุนัขเข้า

สวมใส่อุปกรณ์ให้กับสุนัข

สุนัขช่วยเหลือคนพิการจะมีอุปกรณ์ที่เรียกว่า “บังเหียน” สวมใส่อยู่ตามลำคอ หากน้องหมาที่สวมใส่อุปกรณ์นี้อยู่ หมายความน้องหมากำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจ เพื่ออำนวยความผู้ดวกแก่ผู้พิการอยู่นั่นเอง

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการมีกี่ประเภท

เราสามารถแบ่งสุนัขช่วยเหลือผู้พิการออกได้ 3 ประเภท ดังนี้

Guide dog

Guide dog หรือสุนัขนำทาง สุนัขเหล่านี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการนำทางให้กับผู้พิการทางสายตา คอยสังเกตการณ์สภาวะแวดล้อมรอบข้าง และนำทางไปยังสถานที่เป้าหมายของผู้พิการ

Hearing dog

Hearing dog หรือสุนัขช่วยเหลือผู้พิการทางการได้ยิน มีหน้าที่รับผิดชอบในการฟังเสียง และเตือนเมื่อมีภัยอันตรายอยู่ใกล้ ๆ

Service dog

Service dog หรือสุนัขช่วยเหลือ มีหน้าที่รับผิดชอบช่วยเหลือผู้พิการทั่วไป หรือผู้ที่มีความผิดปกติในบางอย่าง สุนัขเหล่านี้จะทำหน้าที่คอยช่วยเตือนในกรณีที่คุณอาจต้องควบคุมอาหารการกินเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นสุนัขเหล่านี้จึงเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดและปิดประตูได้ เพราะมีการฝึกฝนมาอย่างดีจากครูฝึกผู้เชี่ยวชาญ

สุนัขช่วยเหลือผู้พิการมีสายพันธุ์อะไรบ้าง

ปัจจุบันมีสายพันธุ์สุนัขช่วยเหลือที่เป็นนิยมอย่างแพร่หลายอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่

Golden Retriever

เป็นสุนัขขนาดกลางที่มีความโดดเด่นเรื่องประสาทสัมผัส อีกทั้งยังฉลาด สามารถฝึกฝนได้อย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยน้องหมาสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความร่าเริง ทำให้เป็นเพื่อนคลายเหงาได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

German Shepherd

น้องหมาสายพันธุ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดเช่นเดียวกัน ทำให้การฝึกฝนเป็นไปได้อย่างราบรื่น และสามารถช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้น้องหมาสายพันธุ์อื่น ๆ ข้อดีของน้องหมาสายพันธุ์นี้อีกอย่างนึงคือ มีขนาดใหญ่ และชอบทำกิจกรรม ดังนั้นไม่ต้องกังวลหากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือตลอดทั้งวัน เพราะน้องหมาสายพันธุ์นี้ชื่นชอบที่จะทำกิจกรรมอยู่แล้ว

Labrador Retriever

น้องหมาสายพันธุ์นี้เป็นที่โดดเด่นเรื่องช่วยเหลือผู้พิการเป็นอย่างมาก และนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน จึงทำให้เหมาะกับการช่วยเหลือผู้พิการเป็นอย่างมาก น้องหมาสายพันธุ์นี้มีความกระตือรือร้นสูง แต่ก็เป็นมิตรกับผู้คนรอบข้าง ทำตามคำสั่งเจ้าของอย่างเชื่อฟัง อีกทั้งยังมีโครงสร้างของกระดูกที่แข็งแรง สามารถกักเก็บพลังงานเพื่อนำมาใช้งานในการช่วยเหลือผู้พิการได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

Border Collie

น้องหมาสายพันธุ์นี้ก็โดดเด่นเรื่องความชาญฉลาดไม่แพ้ใคร สมองสามารถประมวลผลได้อย่างว่องไวทำให้การฝึกฝนเป็นไปได้อย่างราบรื่น อีกทั้งลักษณะนิสัยที่มีความช่างสังเกตอยู่แล้ว จึงเหมาะกับการเป็นผู้ช่วยเหลือสำหรับผู้พิการเป็นอย่างดี

คุณสมบัติของสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ

เนื่องจากสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ จะได้รับสิทธิพิเศษที่สามารถเข้าไปในสถานที่สาธารณะ รวมทั้งโรงพยาบาล สถานที่ราชการ ที่มีคนผ่านไปมาพลุกพล่านได้ จึงจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ ที่สุนัขตัวอื่นไม่มี

ควบคุมอารมณ์ได้

น้องหมาที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสำหรับผู้พิการจำเป็นต้องมีวุฒิภาวะที่สามารถควบคุมได้ โดยสิ่งนี้จำเป็นต้องได้รับมาจากการฝึกฝนอย่างเข้มงวด การมีอารมณ์ที่มั่นคง ไม่วอกแวก แม้จะอยู่ในสภาะวะที่ผู้คนรอบข้างตื่นตระหนกเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเป็นผู้ช่วยของผู้พิการอย่างมาก เพราะน้องหมาจะต้องใช้สติในการควบคุมอารมณ์เพื่อให้ถึงสถานที่เป้าหมายอย่างปลอดภัย

ทำงาน 24 ชั่วโมง

น้องหมาจำเป็นต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้พิการตลอด 24 ชั่วโมง หรือตลอดการทำงาน ซึ่งแตกต่างจากน้องหมาทั่วไปที่มีเวลาพักผ่อนเป็นของตัวเอง รวมถึงต้องมีการฝึกฝนให้น้องหมาเข้าใจทั้งคำสั่งเสียง และภาษามืออีกด้วย

อยู่ในรถสาธารณะได้ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ เครื่องบิน

แน่นอนว่าการอยู่ในรถสาธารณะที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องยากของสัตว์แทบทุกชนิด เพราะมีความเป็นไปได้ว่าสัตว์เลี้ยงนี้จะมีภาวะตื่นตระหนกสูง ซึ่งเป็นสิ่งปกติของสัตว์เหล่านี้อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับสุนัขที่ถูกเทรนมาอย่างเข้มงวดเพื่อการช่วยเหลือผู้พิการ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขึ้นรถสาธารณะก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้พิการเช่นเดียวกัน ดังนั้นสุนัขเหล่านี้จึงได้รับการฝึกฝนอย่างพิเศษเพื่อให้นั่งรถสาธารณะได้อย่างสงบ และตอบสนองคำสั่งของผู้พิการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมทิศทาง การนำทางที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างเช่น การขึ้นบันได หรือจุดที่จำเป็นต้องหยุด รวมไปถึงการนำทางอย่างปลอดภัยเวลาต้องข้ามถนนอีกด้วย

อยู่บนถนนที่เสียงดังได้

ท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยเสียงแตร และเสียงรบกวนอันวุ่นวาย น้องหมาเหล่านี้จะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างมีสติ เพื่อที่มุ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการเท่านั้น

แยกเสียงได้

สิ่งเร้าที่อยู่รอบข้างอาจเป็นอุปสรรคสำหรับน้องหมา หรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ แต่สำหรับน้องหมาที่ได้รับการฝึกสอนมาอย่างดีแล้วนั้นจะสามารถแยกเสียงเตือนภัยออกได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะนำทางผู้พิการไปยังสถานที่ปลอดภัยได้ทันเวลา

จำชื่อเจ้าของได้

การจำชื่อเจ้าของให้ได้ก็เป็นอีกหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ เนื่องจากมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถึงจะเป็นผู้พิการก็จำเป็นต้องมีสังคมเช่นเดียวกัน ในกรณีที่มีคนเรียกจากระยะไกล น้องหมาจะทำหน้าที่เตือนให้เจ้าของได้รับรู้

ผ่านการทดสอบอย่างหนัก…เพื่อช่วยเหลือผู้พิการ

ไม่ใช่สุนัขตัวไหนก็ได้ที่จะสามารถช่วยเหลือผู้พิการได้ เพราะสุนัขที่จะต้องช่วยเหลือผู้พิการนั้นมีความจำเป็นต้องฝึกฝนอย่างน้อย 1 ปีครึ่ง และจำเป็นต้องผ่านแบบทดสอบต่าง ๆ เพื่อที่จะตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้พิการ หากอยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง เรามาดูกันทีละข้อกันเลย!

ทดสอบให้อยู่ในพื้นที่สาธารณะ

สำหรับการทดสอบให้อยู่ในพื้นที่สาธารณะจัดทำขึ้นเพื่อตรวจสอบอย่างมั่นใจว่าน้องหมาจะสามารถอยู่ท่ามกลางสภาวะที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าได้อย่างมีสติ เนื่องจากการช่วยเหลือผู้พิการนั้นมีความจำเป็นต้องออกมายังนอกสถานที่อยู่บ่อยครั้ง และจำเป็นต้องเผชิญกับสิ่งวุ่นวายมากมาย และรายล้อมไปด้วยผู้คน หากน้องหมามีคุณสมบัติที่ไม่มากพอ อาจส่งผลให้เกิดอาการตื่นตัวกว่าปกติจนทำให้สายจูงหลุดมือได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทดสอบให้มั่นใจว่าน้องหมาจะสามารถเป็นผู้ช่วยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้พิการได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

ทดสอบให้ช่วยเหลือผู้พิการทางร่างกาย

การช่วยเหลือผู้พิการนั้นรวมไปถึงการทำตามคำสั่งโดยใช้ร่างกายด้วยเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าหากเจ้าของมีคำสั่งให้รอ ก็จำเป็นต้องรออย่างนิ่งสงบ หากมีเด็กน้อยมาเล่นด้วยก็ไม่มีท่าทีหลุดสมาธิจากคำสั่งของเจ้าของ รวมไปถึงความสามารถในการเปิด และปิดประตู หรือคำสั่งต่าง ๆ ที่จะเป็นต้องใช้ร่างกายด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้ได้มาจากการฝึกฝน และทดสอบอย่างหนักนั่นเอง

ทดสอบการนำทาง

สุนัขนำทางผู้พิการเป็นสิ่งที่เราสามารถเห็นได้อย่างปกติ แต่น้อง ๆ เหล่านี้ฝึกฝน และทดสอบกันมาอย่างหนัก เพราะทักษะนี้จำเป็นต้องอาศัยสมาธิที่ค่อนข้างสูง เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถนำทางได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบข้ามถนน หลบสิ่งกีดขวาง รวมถึงทักษะในการตัดสินใจ ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลยสำหรับการฝึกฝนน้องหมาให้มีทักษะเหล่านี้ ดังนั้นน้องหมาตัวใดที่ผ่านการทดสอบแล้วนั้นจะถือว่ามีความสามารถในการช่วยเหลือผู้พิการได้อย่างไร้กังวล

ทดสอบการได้ยิน

ทักษะการได้ยินเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญของการเป็นผู้ช่วยของผู้พิการเช่นเดียวกัน เนื่องจากน้องหมาเหล่านี้จำเป็นต้องตอบสนองต่อเสียงเตือนภัย ในกรณีที่มีสัญญาเตือนฉุกเฉือนในที่สาธารณะ น้องหมาเหล่านี้จำเป็นต้องมีการตอบสนองที่รวดเร็วในการนำทางเพื่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยนั่นเอง

การฝึกฝนและบททดสอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องใช้การทุ่มเททั้งแรงกายและใจ เพื่อที่จะสามารถช่วยเหลือผู้พิการได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยจากสภาพแวดล้อมที่ไม่อาจเฝ้าระวังได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นหากเห็นน้องหมาเหล่านี้กำลังปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญ เราควรชื่นชมโดยการมองอยู่ห่าง ๆ และไม่รบกวนเวลาทำงานของน้อง ๆ นะครับ

ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเจอสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็เคยประสบปัญหาทำตัวไม่ถูกเวลาเจอสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ บางคนถึงกับออกอาการกลัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากอาจไม่คุ้นชินที่พบเจอน้องหมาที่มีโครงสร้างใหญ่ภายในอาคารห้างสรรพสินค้า หรือบางคนอาจรู้สึกไม่ปลอดภัยได้ งั้นเรามาดูสิ่งที่ควรปฏิบัติเมื่อพบเห็นสุนัขช่วยเหลือผู้พิการกันดีกว่า!

เปิดใจยอมรับ

ในสังคมที่เต็มด้วยผู้ที่มีความหลากหลาย การเห็นต่างเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในสังคมของเรา แต่หากเราพยายามเข้าใจความต้องการของผู้พิการ เราจะพบว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นไม่ต่างจากมนุษย์บนโลกคนอื่นเลย เพียงแต่สังคมที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วนั้นทำให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างลำบาก เพราะไม่มีสิ่งที่สามารถเอื้ออำนวยความสะดวกของพวกเขาได้ ดังนั้นการมีสุนัขช่วยเหลือจึงเป็นตัวเลือกที่ดี และอุ่นใจสำหรับพวกเขา เราจึงจำเป็นต้องเปิดใจให้มากขึ้น เพราะน้องหมาเหล่านี้ถูกฝึกฝนกันมาอย่างหนัก รับรองได้ว่าจะไม่มีการสร้างความรบกวนใด ๆ ให้กับผู้อื่นอย่างแน่นอน สิ่งที่พวกเขาสนใจมีเพียงแต่อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าของตัวเองก็เท่านั้น

ทำความเข้าใจ

เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสุนัขช่วยเหลือนั้นถูกฝึกฝนมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้พิการ ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงทั่วไปที่จะสามารถเข้ามาเล่น หรือให้อาหารได้ เพราะจะเป็นการรบกวนสมาธิขณะทำงานของพวกเขา ซึ่งหากสูญเสียสมาธิในการควบคุมระบบการทำงานของสมองแล้วนั้น อาจก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น การเดินชนเสาไฟฟ้า และอื่น ๆ เป็นต้น

สังเกตบังเหียน

การออกแบบของบังเหียนนั้นจะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นสุนัขช่วยเหลือผู้พิการ อาจไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเราสักเท่าไหร่นัก แต่หากพบเจอสัญลักษณ์ หรือโลโก้ที่แปลกตาให้เราอนุมานเลยว่าน้องหมาเหล่านี้กำลังทำงานอยู่ ไม่ควรไปรบกวน

แยกแยะเวลาทำงาน

การที่สุนัขใส่บังเหียนอยู่นั้นแปลว่าอยู่ในเวลาทำงาน แม้ว่าเราจะเห็นน้องหมานิ่ง หรือนอนนิ่ง ๆ ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปเล่นสนุกด้วย การเข้าไปรบกวนเวลาทำงานนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

สิ่งเหล่านี้เราสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ โดยแทบไม่ต้องฝึกฝนแต่อย่างใด หลัก ๆ แล้วนั้นเราควรให้เกียรติผู้ที่พิการ และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง เพื่อที่จะให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างคนปกติทั่วไป การมีสุนัขผู้ช่วยเคียงข้างกายนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นนั่นเองครับ

ปัญหาที่สุนัขช่วยเหลือผู้พิการพบในไทย

แม้ว่าถูกฝึกฝนมาอย่างหนัก เพื่อเป็นเพื่อนข้างกายของผู้พิการ แต่น้องหมาเหล่านี้ก็ประสบปัญหาที่ส่งผลให้ใช้ชีวิตอย่างลำบาก เรามาดูปัญหาที่เป็นปัจจัยหลักต่อการดำเนินชีวิตของสุนัขช่วยเหลือผู้พิการกันเถอะ!

กฏหมายคุ้มครอง แต่ไม่ครอบคลุม

รู้หรือไม่ว่ากฏหมายของไทยมีช่องโหว่ที่ทำให้ผู้พิการยังถูกเอาเปรียบอยู่ อ้างอิงจากกฏหมายพ.ร.บ.ผู้พิการมาตรา 20 วรรค 8 กล่าวไว้ว่า “สิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทาง หรือเครื่องช่วยความพิการใด ๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ใด ๆ เพื่อประโยชน์ในการเดินทางและการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ โดยได้รับการยกเว้นค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าเช่าเพิ่มเติมสำหรับสัตว์ เครื่องมืออุปกรณ์ หรือเครื่องช่วยความพิการดังกล่าว” ซึ่งหมายความว่ามีกฏหมายที่คุ้มครองสิทธิของผู้พิการที่สามารถนำสุนัขช่วยเหลือไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ แต่ไม่ได้ครอบคลุมในทุกสถานที่ เนื่องจากมีบางสถานที่ที่จำกัดให้เพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถเข้าได้ จึงกลายเป็นว่าสิทธิ์ของผู้พิการนั้นถูกริดรอนไป ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติทั่วไปอย่างเต็มที่ อันเนื่องมาจากกฏหมายที่ไม่มีข้อบังคับเรื่องการอนุญาตให้สุนัขช่วยเหลือของผู้พิการเข้าไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม

พื้นทางเดินไม่เอื้ออำนวย

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าพื้นทางเดินบนถนนนั้นไม่เอื้ออำนวยต่อการเดินสักเท่าไหร่นัก จึงทำให้มีปัญหาโดยตรงต่อผู้พิการ และสุนัขช่วยเหลือ เพราะสภาพแวดล้อมบนทางเดินเท้าที่เต็มไปด้วย พื้นขรุขระ แผงร้านค้ามากมาย รวมถึงวินมอเตอร์ไซค์ที่สัญจรไปมาบนฟุตบาท ทั้งหมดนี้จัดเป็นสิ่งอันตรายต่อผู้พิการและสัตว์ช่วยเหลือ เปรียบเสมือนอุปสรรคที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ ทั้งที่ความจริงแล้วพื้นทางเดินนั้นควรออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกต่อทุกคนด้วยซ้ำ

หลายคนไม่รู้

ด้วยความที่สุนัขช่วยเหลือนั้นมีไม่มากเท่าไหร่นักในประเทศไทย ผู้คนทั่วไปอาจจะไม่ทราบถึงวิธีปฏิบัติเมื่อเห็นสุนัขช่วยเหลือ รวมถึงไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่ามีไว้เพื่ออะไร จึงแสดงพฤติกรรมที่ตื่นตระหนก อย่างเช่น ส่งเสียงร้องดังโวยวาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง

หมาจร เจ้าถิ่น

น้องหมาจรจัดตามท้องถนนที่เราเห็นทั่วไปมีหลายลักษณะนิสัยด้วยกัน บ้างก็น่ารัก น่าเอ็นดู บ้างก็หวงแหนอาณาจักรของตัวเอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุนัขผู้ช่วยเเหลือเป็อนย่างมาก อาจมีการไล่เห่า ตลอดจนเกิดการรุมกัดกันได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงเส้นทางอันตรายที่เต็มไปด้วยน้องหมาจรจัดเจ้าถิ่น

ถูกปฏิเสธจนเป็นช่องโหว่

ผู้คนในสังคมมักปฏิเสธการให้บริการผู้พิการเพียงเพราะมีสุนัขช่วยเหลือ เพราะขาดความเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของพวกเขา ถึงแม้จะมีกฏหมายพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ พ.ศ. 2560 ออกมาแต่ก็สะท้อนให้เห็นได้อย่างดีว่า แท้จริงแล้วกฏหมายก็ไม่สามารถครอบคลุมสิทธิที่ผู้พิการถูกริดรอนจากการปฏิบัติของคนในสังคมได้

PetPlease หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความวันนี้จะช่วยให้ทุกคนได้รู้จักกับ “สุนัขช่วยเหลือผู้พิการ” และเปิดใจยอมรับความต้องการของผู้พิการในสังคมของเรามากขึ้น ถ้าหากทุกคนพบเห็นน้องหมาเหล่านี้ อย่าไปรังเกียจ และรบกวนเวลาน้องทำงานเด็ดขาดเลยนะครับ!

คำถามที่พบบ่อย

Q: ใช้สุนัขสายพันธุ์ไทยนำทางแทนได้ไหม ?

A: ไม่ได้ เพราะน้องหมาพันธุ์ไทยจะป้องกันภัยอันตรายจากการกัดอย่างเดียว ซึ่งเป็นวิธีที่รุนแรงไม่เหมาะสมสำหรับการมาเป็นสุนัขนำทาง แม้จะมีนิสัยซื่อสัตย์ก็ตาม

Q: มีสัตว์อื่นทำหน้าที่แทนสุนัขได้ไหม

A: มีการทดลองใช้ม้าแคระเพื่อการช่วยเหลือผู้พิการในสหรัฐอเมริกา แต่ผลตอบรับก็ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากลักษณะนิสัยที่รักอิสระ และอาหารการกินที่ยากกว่าสุนัข