No products in the cart.

อาหารเม็ด

แบรนด์
Select some options
Stores
More
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
แบรนด์
Stores
เพิ่มเติม
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
1 of 1 Results
Sort by
ใหม่

อาหารหนู

หนู เป็นสัตว์ฟันแทะที่มีลักษณะนิสัยการกินที่เป็นจุดเด่น คือ การกัดแทะ ฟันของหนูจะยาวเรื่อย ๆ ทั้งนี้วิธีการเลือกอาหารที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์ อาหารบางชนิดอาจไม่เหมาะกับโครงสร้างทางร่างกาย เนื่องจากแต่ละสายพันธุ์จะมีโครงสร้างทางร่างกายที่แตกต่างกันออกไป

วันนี้ PetPlease จะมาพาทุกคนอาหารสำหรับหนูแต่ละชนิด ได้แก่ หนูแฮมสเตอร์ หนูแกสบี้ และหนูชินชิล่า หนูเหล่านี้คือหนูที่กำลังมาแรงในตลาดสัตว์เลี้ยง ก่อนจะตัดสินใจซื้อมาเลี้ยงดู เรามาศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอาหารของหนูกันเถอะ!

 

1.อาหารที่เหมาะสมสำหรับหนูแฮมสเตอร์
หนูแฮมสเตอร์เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันด้วยขนาดตัวที่เล็ก รูปร่างน่ารัก และมีขนที่นุ่มฟู หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่ชื่นชอบการกินเป็นอย่างมาก เราจึงจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องการให้อาหารเป็นสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีของหนูแฮมสเตอร์ โดยอาหารหลักของหนูแฮมสเตอร์ มีดังต่อไปนี้

  • อาหารเม็ดสำเร็จรูป
    การเลือกอาหารเม็ดให้หนูแฮมสเตอร์ ควรเลือกอาหารตามสายพันธุ์ เนื่องจากมีความต้องการและขนาดที่แตกต่างออกไป ควรเลือกที่เต็มไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ เกลือแร่และวิตามินต่าง ๆ แนะนำให้เลือกอาหารที่มีปริมาณโปรตีนมากกว่า 10 % ขึ้นไป ไขมันประมาณ 3-8% รวมไปถึงเส้นใยสูง
  • ธัญพืชและถั่ว
    หนูแฮมสเตอร์สามารถบริโภค ธัญพืช เช่น ข้าวโพด เมล็ดฟักทอง หรือ ถั่วชบิดต่าง ๆ เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง และอื่น ๆ เป็นต้น ธัญพืชและถั่วเหล่านี้ ถือว่าเป็นแหล่งรวมโปรตีน และวิตามินที่ดีต่อสุขภาพของหนูแฮมสเตอร์
  • ผักและผลไม้
    ผักและผลไม้ อาทิ แครอท แตงกวา แอปเปิล กล้วย พริกหวาน ผักกาด ขึ้นฉ่ายและคะน้า ควรจำกัดปริมาณ เนื่องจากจะทำให้หนูแฮมสเตอร์ท้องเสียได้ แนะนำเป็นผักและผลไม้อบแห้งจะดีต่อสุขภาพของหนูแฮมสเตอร์มากกว่า
  • หนอนนก
    หนอนนก คือ แหล่งโปรตีนที่สูง ทั้งยังเป็นที่โปรดปรานของหนูแฮมสเตอร์ แต่ก็ควรควบคุมปริมาณเนื่องจากจะทำให้อ้วนไว
  • ขนมสำหรับหนูแฮมสเตอร์
    ขนมของหนูแฮมสเตอร์มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบแท่ง เม็ด บิสกิต คุกกี้ หรือขนมเลีย ขนมเหล่านี้เหมาะสำหรับหนูที่โตเต็มวัย ไม่เพียงแต่ให้ความเพลิดเพลินในการกิน แต่ยังมีส่วนเพิ่มภูมิคุ้มกัน วิตามิน รวมถึงแร่ธาตุสำคัญที่มีส่วนช่วยทำให้ขนเงางาม ทั้งนี้ควรเลือกขนมที่มีส่วนประกอบของผลไม้และหนอนเป็นหลัก และควรให้ขนมเพียงแค่ 1 – 2 วันต่อสัปดาห์ ส่วนการเก็บรักษานั้นควรเก็บในที่แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดความชื้น
  • อาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับหนูแฮมสเตอร์
    หลีกเลี่ยงอาหารของคน เช่นเส้นพาสต้า เนื้อสัตว์ ปลาดิบ ขนม เนื่องจากสามารถทำให้หนูแฮมสเตอร์เป็นโรคเบาหวานได้ง่าย เพราะน้ำตาลสูง

 

2.อาหารที่เหมาะสมสำหรับหนูแกสบี้
หนูแกสบี้มีความต้องการวิตามินซีมากกว่าหนูชนิดอื่น ๆ เนื่องจากไม่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีด้วยตัวเองได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเน้นอาหารที่มีวิตามินซีเป็นหลัก โดยอาหารของหนูแกสบี้ มีดังต่อไปนี้

  • อาหารเม็ดสำเร็จรูป
    การเลือกอาหารเม็ดสำหรับหนูแกสบี้ ควรเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครอบคลุม ดังนี้ โปรตีน 18-20% ไฟเบอร์ 16% และควรมีส่วนผสมของวิตามินซี 1 กรัม/1 กิโลกรัมของอาหารเม็ด
  • หญ้าขน
    มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยมีค่าเฉลี่ยนโปรตีนรวมสูงถึง 7.4%
  • หญ้าอัลฟาฟ่า
    หนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเนื่องจากมีแคลเซียมสูงมาก ไม่ควรให้บ่อยเพราะจะทำให้เป็นนิ่ว ควรผสมกับหญ้าขน
  • หญ้าทิโมธี
    ควรให้หญ้าทิโมธี 70-75% ของมื้ออาหารในแต่ละวัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของหนู เนื่องจากหญ้าทิโมธีมีส่วนในการช่วยขัดฟัน ภายในหญ้าทิโมธีมีปริมาณโปรตีนที่ต่ำ ใยอาหารสูง อีกทั้งยังให้พลังงานสูง ซึ่งดีต่อสัตว์ฟันแทะ การเลือกซื้อหญ้าทิโมธีนั้นควรเลือกหญ้าที่มีสีสด ไม่มีความชื้นและยังคงกลิ่นหญ้าอยู่
  • หญ้าแพงโกล่า
    สามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาด แต่สารอาหารไม่เยอะเท่าหญ้าอัลฟาฟ่าและหญ้าทิมโมธี
  • ผักและผลไม้
    เพื่อเสริมสร้างวิตามิน ควรให้ผักสลัด ใบบัวบก หรือ แครอทชิ้นเล็กน้อย ไม่ควรให้ผักสดมาจนเกินไปเพราะอาจทำให้ท้องเสีย สำหรับผลไม้สามารถให้เควี่ฟรุต โดยให้กินสดหรือผสมน้ำก็ได้
  • อาหารเสริมสำหรับหนูแกสบี้
    วิตามินซีสังเราะห์ชนิดผงหรือน้ำ ให้ผสมลงในอาหารหรือน้ำดื่ม ควรให้แกสบี้กินหมดภายใน 12 ชั่วโมง เพราะวิตามินซีจะสลายตัวหากโดนแสง วิตามินซีชนิดเม็ด สามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเนื่องจากสามารถทานชนิดเดียวกับคนได้ ให้วันละครึ่งเม็ดต่อวัน
  • อาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับหนูแกสบี้
    ไม่ควรให้หนูแกสบี้กินอาหารที่มีส่วนประกอบของถั่วและเมล็ดทานตะวัน เนื่องจากมีปริมาณของไขมันมากจนเกินไป และอาจติดคอทำให้ขัดขวางการทำงานของระบบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาจส่งผลให้หนูแกสบี้เสียชีวิต

 

3.อาหารที่เหมาะสมสำหรับหนูชินชิล่า
ชินชิล่าเป็นสัตว์ตระกูลฟันแทะ อาหารหลักของชินชิล่านั่นก็คือ หญ้า อาจมีผักและผลไม้ผสมไปแต่ควรให้กินในปริมาณที่พอเหมาะ ชินชิล่าเป็นสัตว์ที่เลือกกินพอสมควร อาหารที่ชินชิล่าสามารถกินได้ มีดังต่อไปนี้

  • อาหารเม็ดสำเร็จรูป
    การเลือกอาหารเม็ดสำหรับหนูชินชิล่า ควรมีคาร์โบไฮเดรตรวมอยู่ในสัดส่วน 51% โปรตีน 24 % เส้นใย 21 % ไขมัน 4 % และไม่ควรมีส่วนผสมของข้าวโพด ดอกทานตะวัน เมล็ดถั่วลิสง เพราะจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของชินชิล่า สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารสัตว์ทั่วไป ซึ่งประกอบด้วยเมล็ดข้าวสาลี หญ้าแห้งอัลฟาฟ่า ข้าวโอ๊ต กากน้ำตาล ถั่วเหลือง วิตามินและแร่ธาตุ ควรให้อาหารเพียงวันละ 2 ช้อนโต๊ะ เนื่องจากชินชิล่าเป็นสัตว์ที่กินน้อย เพราะมาจากเขตแห้งแล้งบนเทือกเขาสูง
  • หญ้าแห้ง
    หญ้าแห้งเป็นอาหารที่สามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาด มีสารอาหารที่เพียงพอสำหรับหนูชินชิล่า แบ่งออกเป็น 5 ประเภท ดังนี้
    – หญ้าแห้งเมโดว์ มีทั้งโปรตีนและแคลเซียนที่สูง แต่หาได้ยาก อันเนื่องมาจากผลผลิตทางเกษตรที่ค่อนข้างน้อย
    – หญ้าแห้งออชาร์ด แหล่งรวมวิตามิน ไฟเบอร์ และแร่ธาตุชั้นดี อักทั้งมีรสชาติที่อร่อยกระตุ้นความอยากอาหารของชินชิล่าได้เป็นอย่างดี
    – หญ้าแห้งต้นข้าวโอ๊ต เป็นหญ้าตระกูลพืช ควรเลือกซื้อหญ้าที่มีสีเขียวเพราะเต็มไปด้วยสารอาหารที่ดีสำหรับชินชิล่า มีผิวสัมผัสที่กรอบ
    – หญ้าแห้งทิโมธี เป็นที่นิยมสำหรับสัตว์ฟันแทะ เนื่องจากมีไฟเบอร์เยอะ มีส่วนช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร มีโปรตีนน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับสัตว์ขนาดเล็กอย่างชินชิล่า เหมาะสำหรับสัตว์ฟันแทะที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถให้ได้ทุกวัน หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด
    – หญ้าแห้งอัลฟาฟ่า เหมาะสำหรับชินชิล่าที่กำลังป่วย ตั้งครรภ์ หรือช่วงวัยเด็ก มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างและฟื้นฟูสุขภาพได้ดี
  • สมุนไพรและผลเบอร์รี่
    สมุนไพรและผลเบอร์รี่ ได้แก่ ผักชีฝรั่ง พริกไทย ออริกาโน แครอท ราสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ แอปเปิ้ล และอื่น ๆ เป็นต้น แนะนำให้ชินชิล่ากินเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้สามารถย่อยอาหารได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • อาหารที่ควรเลี่ยงสำหรับหนูชินชิล่า
              – อาหารที่มีแก๊สสูง เช่น กะหล่ำปลี ข้าวโพด มันฝรั่ง หัวบีท ข้าวไรย์ และผักกาด เนื่องจากส่งผลให้ชินชิล่าเสียชีวิตได้
    – โปรตีนจากสัตว์ เนื่องจากชินชิล่าเป็นสัตว์กินพืชหรือมังสวิรัติ
    – ผักและผลไม้ที่สกปรก ไม่ควรให้ผักและผลไม้ที่ยังไม่ได้ทำความสะอาดเพราะจะทำให้ท้องเสียได้
    – น้ำประปา เนื่องจากอาจมีสารหรือแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของชินชิล่า
    – ขนมปังหรือขนมอบอื่น ๆ เพราะเป็นอาหารหนัก ยากต่อการย่อยของชินชิล่า

 

4.การเก็บรักษาอาหารหนู
การเก็บอาหารหนูอย่างถูกต้องเพื่อรักษาอายุการใช้งาน
วิธีการเก็บรักษาอาหารหนูไม่ต่างกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ควรใส่ในกล่องซิปล็อค ใส่ตัวดูดออกซิเจนไว้ โดยวางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ ไม่จำเป็นต้องแช่เย็น หลังจากแกะถุงควรใช้ให้หมดภายใน 3 เดือน เพื่อป้องกันเชื้อราในอาหาร

  • การกำจัดมอดในอาหารโดยการแช่แข็ง
    ในกรณีที่มีมอดอยู่ในอาหาร สามารถกำจัดมอดเองได้ เพียงแค่นำอาหารหนูบรรจุในกล่องซุปเปอร์ล็อค เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปในกล่อง หลังจากนั้นนำกล่องไปแช่แข็งประมาณ 24 ชั่วโมงหรือมากกว่า หลังจากครบเวลาให้นำออกมาตั้งที่อุณหภูมิ เพื่อทำให้อุณภูมิเป็นปกติ ห้ามเปิดกล่องจนกว่าจะหายเย็น เพียงเท่านี้มอดที่อยู่ในอาหารของหนูก็ถูกกำจัดออกจนหมด

 

5.คำถามที่พบบ่อย

Q: ควรให้หนูกินธัญพืชเพียงชนิดเดียวหรือไม่ ?
A: ไม่ควรให้หนูกินธัญพืชเพียงชนิดเดียว ควรมีธัญพืชที่หลากหลายประเภท ทั้งนี้ควรให้ในปริมาณที่เหมาะสม หากให้มากจนเกินไปจะทำให้เกิดผลเสียแก่ร่างกายของหนู

 

Q: หากหนูแกสบี้เกิดภาวะขาดวิตามินซี จะมีผลลัพธ์อย่างไร ?
A: หนูแกสบี้จะมีอาการอ่อนเพลีย ป่วย ท้องเสีย เบื่ออาหาร ร่วมไปถึงเกิดอาการขนร่วงและหยาบกว่าปกติ หากเกิดอาการเช่นนี้ เจ้าของควรเพิ่มวิตามินซีทุกวัน ซึ่งหาได้จากผักและผลไม้

 

สำหรับใครที่กำลังมองหาอาหารหนูที่มีคุณภาพ ถูกใจหนูที่เราเลี้ยง สามารถสั่งซื้อกับทาง PetPlease ได้เลย!