No products in the cart.

คอกและที่นอน

แบรนด์
Select some options
Stores
More
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
แบรนด์
Stores
เพิ่มเติม
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
0 of 0 Results
Sort by
No data was found

เตียงนอนและบ้านสุนัข

เตียงนอนและบ้านสำหรับสุนัข ถือเป็นหนึ่งในไอเท็มที่จำเป็นมาก ๆ เพราะการนอนหลับพักผ่อนสำหรับสุนัขเองก็สำคัญไม่แพ้มนุษย์อย่างเราเลย เพราะฉะนั้นการที่เรามีเตียงนุ่ม ๆ หรือบ้านสุนัขสักหลังให้พวกเขาได้พักผ่อนและนอนหลับอย่างเต็มที่ ก็คงจะดีไม่น้อย

วันนี้ PetPlease ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับเตียงนอนและบ้านสุนัขมาแบ่งปันให้กับทุกคนแล้วค่ะ!

 

1.ประเภทของเตียงนอนสุนัข
ปัจจุบันในท้องตลาดมีเตียงนอนและบ้านสุนัขให้เลือกสรรมากมาย ขึ้นอยู่กับการใช้งาน สายพันธุ์ และไลฟ์สไตล์ของเจ้าของ ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ประเภทด้วยกัน

  • เตียงนอนสุนัขแบบมาตรฐานทั่วไป
    เตียงนอนสุนัขแบบมาตรฐานทั่วไป มีให้เลือกหลายสี หลายขนาดมักจะทำจากผ้าขนสัตว์ ผ้ากำมะหยี่ ผ้าสักหลาด ผ้ายีนส์ หนังเทียม หรือไมโครไฟเบอร์ มีราคาตั้งแต่น้อยไปถึงมาก แตกต่างกันไปตามดีไซน์และแบรนด์นั้น ๆ ส่วนใหญ่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ เหมาะกับสุนัขทุกสายพันธุ์ แต่อาจจะไม่เหมาะกับสุนัขที่มีอายุเยอะหรือมีปัญหาเรื่องข้อต่อ ข้อกระดูก
  • เตียงนอนสุนัขแบบ Nest
    เตียงนอนสุนัขแบบ Nest มีลักษณะคล้าย ๆ กับแบบมตารฐานทั่วไป แตกต่างกันที่แบบ Nest จะมีขอบยกสูง ล้อมรอบขอบเตียงนอน หรืออาจจะบางส่วนของเตียง คล้ายกับโซฟานั่นเอง ข้อดีของการมีขอบก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสุนัขได้นอนเกยหรือม้วนขดตัวได้อย่างสบาย เหมาะกับสุนัขทุก ๆ สายพันธุ์โดยเฉพาะสุนัขที่ชอบนอน
  • เตียงนอนสุนัขรูปทรงโดนัท
    เตียงนอนสุนัขรูปทรงโดนัท มีลักษณะคล้ายกับโดนัทและเตียงนอนแบบNest ตรงที่มีขอบยกสูงแต่มีความนุ่มกว่า ตามท้องตลาดจะมีทั้งรูปทรงกลม และรูปไข่ เหมาะกับสุนัขที่หนาวง่ายหรือถูกเลี้ยงไว้ในห้องแอร์ แต่ไม่เหมาะกับสุนัขที่ไม่ค่อยแข็งแรงหรืออายุเยอะ เพราะเนื่องจากเตียงมีความนุ่มพิเศษจึงทำให้ยากต่อการทรงตัว
  • เตียงนอนสุนัขแบบ Orthopedic
    เตียงนอนสุนัขแบบ Orthopedic เป็นเตียงที่ตอบโจทย์กับสุนัขที่มีอายุเยอะหรือมีปัญหาเรื่อง ข้อต่อ ข้อกระดูก ซึ่งทำจากโฟมหรือนุ่นหนา ๆ ที่มีคุณภาพสูง ในการช่วยรองรับสรีระของสุนัข ลดการกดทับของกระดูก ซึ่ง จริง ๆ แล้วเตียงนอนชนิดนี้สามรถใช้ได้และตอบโจทย์กับทุกสายพันธุ์เช่นกันค่ะ
  • เตียงนอนสุนัขแบบใส่เข้าไปในกรง
    เตียงสุนัขแบบใส่เข้าไปในกรง โดยจะผลิตมาเพื่อให้เข้ากับกรงสุนัขโดยเฉพาะ และยิ่งกับสุนัขที่ถูกเลี้ยงมาให้นอนในกรง หายห่วงได้เลยค่ะ ตอบโจทย์สุด ๆ นอกจากนี้ยังสามารถกันน้ำและทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วยน้า
  • เตียงนอนสุนัขแบบยกสูง
    เตียงนอนแบบยกสูง กำลังเป็นที่กำลังนิยมในปัจจุบัน เพราะเตียงประเภทนี้ค่อนข้างแข็งแรงและสามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ป้องกันความเย็นและสิ่งสกปรกจากพื้นอีกด้วย
  • เตียงนอนสุนัขแบบปิด
    เตียงนอนสุนัขแบบปิด สุนัขบ้านไหนมีโลกส่วนตัวสูง ค่อนข้างขี้อาย ชอบซุกตัวเบาะนอนสุนัข ควรเลือกที่นอนสุนัขแบบปิดที่มีลักษณะแบบโดม หรือเป็นบ้าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับน้องได้ดี เดี๋ยวนี้เตียงนอนแบบนี้ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยน้า
  • เตียงนอนสุนัขแบบ Heated bed
    เตียงนอนสุนัขแบบ Heated bad เป็นที่นิยมมากหากคุณอยู่ในเมืองหนาว หรืออยู่บ้านแต่ชอบเปิดแอร์เย็น ๆ เพราะเตียงนอนสุนัขชนิดนี้มีแผ่นให้ความร้อน ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นกับสุนัข และที่สำคัญอย่าลืมอ่านคู่มือ และทำตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างเคร่งครัดด้วยน้า
  • เตียงนอนสุนัขแบบเจลให้ความเย็น
    เตียงนอนสุนัขแบบเจลให้ความเย็น บ้านเราอาจจะคุ้นเคยมากกว่า Heated Bed เพราะเตียงนอนชนิดนี้จะช่วยปล่อยความเย็นและช่วยลดอุณหภูมิให้กับน้องสุนัข ได้ถึง 2-4 องศา ทั้งเย็นทั้งนุ่ม แต่ไม่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นภาวะปอดชื้น บอกได้เลยว่าน้องสุนัขฟินสุดๆ
  • เตียงนอนแบบพกพา
    เตียงนอนแบบพกพา มีลักษณะคล้ายกับเตียงมาตรฐาน แต่สามารถพับและพกพาได้สะดวกแถมยังช่วยประหยัดพื้นที่ด้วย เหมาะกับเจ้าของที่ชอบพาสัตว์เลี้ยงหรือน้องสุนัขเดินทางท่องเที่ยว ไปตามที่ต่างๆ ตอบโจทย์มาก ๆ เลยล่ะค่ะ

 

2.วิธีการเลือกเตียงนอนสุนัข
หลังจากทำความรู้จักกับเตียงนอนสุนัขกันไปแล้ว เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันบ้างดีกว่าค่ะ เตียงนอนแบบไหนเหมาะกับสุนัขพันธุ์ไหนกันบ้าง

  • เลือกจากขนาดตัวของสุนัข
    การเลือกเตียงนอนจากขนาดของสุนัขเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ควรเลือกเตียงนอนให้เหมาะสมกับขนาดและสายพันธุ์ เจ้าของหรือคนเลี้ยงควรวัดขนาดความยาวของน้องโดยเริ่มจากปลายจมูกจนสุดปลายลำตัว (ไม่ต้องวัดความยาวของหางนะคะ) อย่าลืมเผื่อความยาวไว้สักประมาณ 5 – 10 เซนติเมตรด้วยน้า เวลานอนน้องสุนัขจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดและสบายตัวค่ะ
  • ลักษณะนิสัยการนอน
    สุนัขบางตัวจะชอบนอนดิ้น บางตัวชอบนอนยืดตัว หรือขดตัว การเลือกจากลักษณะนิสัยของน้องสุนัขเอง จะทำให้สุนัขรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกปลอดภัย และชื่นชอบเตียงนอนที่คุณเลือกให้นั่นเอง ซึ่งท่านอนของน้องสุนัข มีทั้งหมด 6 ท่าด้วยกัน ถ้าอยากรู้ว่าท่านอนของน้องแต่ละท่า เหมาะกับเตียงแบบไหนได้บ้าง ไปดูกันเลย!

        • ท่านอนตะเเคงเป็นท่าพื้นฐานที่พบได้ทั่วไปเลยค่ะ เพราะเป็นท่าที่ทำให้น้องรูสึกสบาย ผ่อนคลาย และปลอดภัย เหมาะกับเตียงนอนสุนัขแบบ Nest และเตียงนอนสุนัขรูปทรงโดนัทเพราะเตียง2ชนิดนี้จะมีขอบยกสูง ล้อมเตียงคล้ายโซฟา ซึ่งตอบโจทย์กับสุนัขที่มีนิสัยชอบนอนเกย นอนตะแคงและยังป้องกันการตกเตียงจากการนอนดิ้นของน้องสุนัขอีกด้วยน้า
        • ท่านอนขดตัว น้องสุนัขจะชอบนอนท่าขดตัวก็เมื่อตัวเองรู้สึกหนาว ไม่ปลอดภัยหรือกำลังปกป้องตัวเอง บางครั้งก็เป็นการพักเหนื่อย เตียงนอนที่เหมาะการนอนขดตัวก็คือเตียงนอนสุนัขแบบปิดเพราะจะทำให้น้องรู้สึกเป็นส่วนตัว ปลอดภัย ส่วนเตียงนอนสุนัขแบบ Heated bad ก็จะมีแผ่นให้ความร้อน ที่จะช่วยให้ความอบอุ่นกับสุนัขค่ะ
        • ท่านอนแบบยืดตัวเป็นท่าที่พบได้ในสุนัขขนาดเล็กหรือลูกสุนัขค่ะ เป็นท่าที่สุนัขนอนเพื่อระบายความร้อน ซึ่งเตียงนอนที่เหมาะกับท่านอนแบบยืดตัวก็คือเตียงนอนสุนัขแบบเจลให้ความเย็นค่ะ เพราะเตียงนอนชนิดนี้จะช่วยปล่อยความเย็นและช่วยลดอุณหภูมิให้กับน้องสุนัข ได้ถึง 2-4 องศาเลยทีเดียว
        • ท่านอนแผ่หลา ขาชี้ฟ้า เป็นท่าที่โปรดปรานของสุนัขอีกหนึ่งท่าเช่นกันค่ะ ทำให้สุนัขรู้สึกปลอดภัย แต่ไม่สามารถนอนท่านี้ได้เป็นเวลานานเนื่องจากจะทำให้ลิ้นไปอุดกั้นทางเดินหายใจได้ ดังนั้นควรเลือกเตียงที่ช่วยอำนวยความสะดวกและรองรับสรีระของน้องได้ดี เช่น เตียงนอนสุนัขแบบมาตรฐานทั่วไปหรือเตียงนอนสุนัขแบบ Orthopedic ซึ่งทำจากโฟมหรือนุ่นหนา ๆ ที่มีคุณภาพสูง ช่วยในการรองรับสรีระของสุนัขและลดการกดทับได้ค่ะ
        • ท่านอนคว่ำท้อง เป็นท่าที่ดูไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่ เนื่องจากกล้ามเนื้อบางส่วนของน้องถูกกดทับเอาไว้นั่นเอง ซึ่งท่านอนแบบคว่ำท้องเป็นท่าที่บ่งบอกว่าสุนัขมีนิสัยขี้อายด้วย เตียงนอนที่เหมาะกับสุนัขที่ชอบนอนคว่ำ ก็คือ เตียงนอนสุนัขแบบ Orthopedic เตียงนอนสุนัขแบบปิดและเตียงนอนสุนัขแบบมาตรฐานทั่วไป นั่นเองค่ะ
        • ท่านอนหลับไร้สติ สำหรับบ้านไหนที่น้องสุนัขชอบนอนท่านี้ อย่าเพิ่งไปรบกวนหรือปลุกน้องนะคะ เพราะน้องกำลังชาร์จพลังอยู่นั่นเอง ควรปล่อยให้น้องได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ค่ะ โดยเลือกเป็นเตียงนอนสุนัขแบบ Nest ซึ่งจะตอบโจทย์กับน้องสุนัขที่รักการนอนเป็นพิเศษค่ะ

 

3.ประเภทของบ้านสุนัข
หลังจากทำความรู้จักเตียงนอนสุนัขไปแล้ว เราลองมาทำความรู้จักกับบ้านสุนัขกันบ้างนะคะ ว่ามีอะไรบ้างที่เราควรรู้!

  • บ้านที่ทำจากวัสดุไม้
    บ้านสุนัขที่ทำวัสดุที่ทำจากไม้จะเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี แข็งแรงทนทาน สมารถตั้งวางไว้บริเวณนอกบ้านได้ด้วย แต่อาจจะมีข้อเสียในเรื่องของน้ำหนักที่ค่อนข้างเยอะ เคลื่อนย้ายลำบาก
  • บ้านที่ทำจากวัสดุพลาสติก
    บ้านสุนัขที่ทำจากวัสดุพลาสติก กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะมีน้ำหนักเบา กันน้ำ แถมยังเคลื่อนย้ายได้สะดวกด้วย คงทนและแข็งแรง เหมาะกับการตั้งไว้ในที่ร่ม และยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย
  • บ้านที่ทำจากโลหะ
    บ้านสุนัขที่ทำจากโลหะ อาจจะไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก เพราะมีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ ส่วนมากจะเหมาะกับสุนัขที่ค่อนข้างดุและเป็นนักล่า เนื่องจากมีความแข็งแรง และความทนทานสูงกว่าบ้านสุนัขชนิดอื่น ๆ
  • บ้านที่ทำวัสดุผ้าหรือรูปร่างทรงเต้นท์
    บ้านที่ทำวัสดุผ้าหรือรูปร่างทรงเต้นท์ เป็นบ้านที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา ตอบโจทย์กับการเดินทางหรือท่องเที่ยว นิยมไว้เพื่อพาน้องสุนัขออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน

 

4.วิธีเลือกบ้านให้เหมาะกับหมา

  • เลือกที่ตามขนาด
    เราควรรู้สัดส่วนของขนาดสุนัขของเรา และไม่ควรเลือกบ้านที่มีขนาดเล็กจนเกินไปจะทำให้น้องรู้สึกอึดอัดได้ และควรให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้สอยที่เราจะไปจัดวางได้ด้วย
  • เลือกตามวัสดุและโครงสร้างของบ้าน
    การเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับพื้นที่ในการเลี้ยงน้องสุนัขว่าเป็นพื้นที่การเลี้ยงแบบเปิดหรือปิด และควรเลือกให้แข็งแรงทนทานปลอดภัย ทนฝน ทนแดด ก็จะดีมาก ๆ เลยล่ะค่ะ
  • เลือกตามพฤติกรรมของสุนัข
    แน่นอนค่ะ ว่าการเลือกจากพฤติกรรมของสุนัขอย่างเช่น น้องหมาถ้าชอบกัด แทะ ทำลาย เราควรจะเลือกวัสดุที่มีความทนทานเป็นพิเศษ เพราะถ้าใช้แบบผ้าหรือพลาสติกก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสุนัขได้นั่นเองค่ะ

 

5.ข้อควรระวังในการเลือกซื้อบ้านและเตียงนอนสุนัข
สิ่งสำคัญในการการเลือกซื้อบ้านและเตียงนอนสุนัขที่มองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของคุณภาพที่ได้มาตรฐาน เนื่องจากในท้องตลาดบ้านและเตียงนอนสุนัขมีขายอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับน้องสุนัขได้ เช่น ทำให้น้องสุนัขเกิดแผลกดทับ นอนหลับไม่สบาย หรือเป็นแหล่งสะสมของเห็บหมัดและเชื้อโรค ดังนั้นแนะนำให้ลงทุนซื้อบ้านหรือเตียงที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานเพื่อที่จะได้ส่งผลดีต่อน้องสุนัขในระยะยาวค่ะ

  • ควรเลือกซื้อบ้านและเตียงนอนสุนัขที่ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงหรือถูกจนเกินไป โดยเน้นที่คุณภาพของวัสดุและฟังก์ชั่นการใช้เป็นหลัก
  • ควรเลือกจากวัสดุที่ได้มาตรฐาน ไม่นุ่มหรืออ่อนยวบจนเกินไป ไม่แข็งจนนอนไม่สบาย ไม่เก็บกลิ่นและสิ่งสกปรก
  • ควรเลือกบ้านและเตียงนอนสุนัขที่ทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อป้องกันการสะสมของเห็บหมัดและเชื้อโรค
  • ควรศึกษาข้อมูลของบ้านและเตียงสุนัขอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อที่จะได้ตอบโจทย์กับสุนัขมากที่สุด
  • ควรเลือกซื้อจากร้านหรือแหล่งค้าขายที่ไว้ใจได้ เพื่อเป็นการป้องกันสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพกลับมา

 

6.คำถามที่พบบ่อย
Q: ถ้าหากสุนัขไม่ยอมนอนเตียงนอนหรือบ้านของตัวเองจะทำอย่างไร?
A: เราควรเริ่มฝึกให้สุนัขหัดนอนบนเตียงหรือในบ้านสุนัขตั้งแต่เด็ก พยายามฝึกให้สุนัขคุ้นชินกับเตียงหรือบ้านสุนัข โดยการทำกิจกรรมบนที่นอนของน้อง กินขนม หรือเล่นของเล่น อาจจะเอาของเล่น ตุ๊กตาที่น้องสุนัขชื่นชอบไปไว้บนเตียงหรือในบ้านด้วยก็ดีมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าหากสุนัขโตที่เริ่มฟังคำสั่งรู้เรื่องแล้ว ลองฝึกใช้คำสั่งว่า ไปนอน อาจจะบอกว่านอน แล้วเอามือที่นอน เอามือชี้ไปที่เตียงหรือบ้านสุนัขก็ได้ค่ะ โดยค่อย ๆ เริ่มฝึกจากระยะเวลาสั้นๆไปจนน้องเริ่มรู้สึกคุ้นเคย ปลอดภัย และสบายตัวค่ะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ? หลังจากอ่านจบแล้ว หวังว่าทุก ๆ คนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเตียงนอนและบ้านสุนัขไปไม่มากก็น้อยเลย สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านและเตียงนอนสำหรับน้องหมา สามารถเลือกซื้อได้ที่ PetPlease เลยค่ะ!