รวมสายพันธุ์แมวสำหรับทาสภูมิแพ้แมว เลี้ยงได้ ไม่มีปัญหา

แชร์ :

แมว หนึ่งในสัตว์เลี้ยงสุดน่ารักที่เป็นที่นิยมและทำให้หลายๆคนต่างก็ชื่นชอบแต่มีอีกหนึ่งปัญหากวนใจที่ทาสแมวหลายๆคนต้องพบเจอ นั่นก็คือ โรคภูมิแพ้ขนแมว นี่เองค่ะ ทำให้การกอดฟัดเจ้าตัวน้อยได้อย่างไม่เต็มที่เพราะกลัวอาการภูมิแพ้จะกำเริบ วันนี้ Petplease เลยขอเอาใจอาสาพาทุกคนไปรู้จักกับสายพันธุ์แมวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้แมว เลี้ยงง่าย ไม่ต้องกลัวอาการกำเริบอีกต่อไป

บทความนี้ขอนำเสนอ

สาเหตุที่คนแพ้คนแมว
แมวไม่มีขน คือแมวที่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้
6 สายพันธุ์แมวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้
วิธีป้องกันอาการแพ้ขนแมว
คำถามที่พบบ่อย

สาเหตุที่คนแพ้คนแมว

Dr.Shelly Zacharias รองประธาน Medical Affairs for Gallant บริษัทเก็บรักษาสเต็มเซลล์และพัฒนาการรักษาสัตว์ด้วยชีววิทยาธรรมชาติ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่คนเป็นภูมิแพ้ หรือคนแพ้ขนแมวควรรู้ คือ ความจริงแล้วเราไม่ได้แพ้ขนแมว แต่แพ้น้ำลายแมวต่างหาก เนื่องจากในน้ำลายมีสารก่อภูมิแพ้ชื่อว่า โปรตีน Fel d 1 ปะปนอยู่ ซึ่งโปรตีนชนิดนี้มักจะแพร่กระจายสู่ขนแมวผ่านการเลีย และเมื่อคนสัมผัสแมว หรือแมวผลัดขน ก็ทำให้โปรตีนนั้นรายล้อมรอบตัวเรา จนทำให้เกิดอาการแพ้นั่นเอง

แมวไม่มีขน คือแมวที่ไม่มีสารก่อภูมิแพ้

แมวที่ไม่มีขน ไม่ได้ไม่หมายความว่าจะไม่ก่อสารก่อภูมิแพ้ เพราะคนเราแพ้น้ำลายแมว ไม่ใช่ขนแมว ฉะนั้นการที่แมวไม่มีขน จึงไม่เกี่ยวข้องกันเลย เนื่องจากแมวทุกตัวยังผลิตโปรตีน Fel d 1 ทางน้ำลายได้อยู่ อย่างไรก็ตามเนื่องจากคนเรามักได้รับเชื้อโปรตีนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้จากขน (เพราะแมวชอบเลียขน ไม่ได้เลียเรา) ดังนั้นเมื่อแมวไม่มีขนแล้ว ก็เลยทำให้ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ลดลงไปด้วยนั่นเองค่ะ

6 สายพันธุ์แมวสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

สฟิงซ์ (Sphynx)

แมวสฟิงซ์เป็นสายพันธุ์แมว ที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้มากที่สุด เพราะแมวสายพันธุ์นี้แทบที่จะไม่มีขนให้ได้พบเห็นเลย จึงช่วยลดการเกาะของสารก่อภูมิแพ้ หรือโปรตีน Fel d 1 ลงได้ สำหรับต้นกำเนิดของแมวสายพันธุ์นี้คือประเทศแคนาดา เป็นแมวที่มีขนาดไม่ใหญ่จัดว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ มีอายุเฉลี่ยประมาณ 15 – 20 ปีเลยทีเดียว แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่มีนิสัยขี้อ้อน นิสัยดี มีความร่าเริง ค่อนข้างเป็นแมวที่ฉลาด เข้ากับเด็กและสัตว์อื่นๆได้ง่าย เหมาะกับการเลี้ยงในบ้าน แม้จะไม่ค่อยมีขน ขนบางและสั้นมาก แต่ก็ยังต้องการการแปรงขนเป็นประจำเหมือนกันนะ

ไซบีเรียน (Siberian)

แมวไซบีเรียนได้ชื่อว่าเป็นแมวที่มีขนหนาถึง2ชั้น และดูท่าทางจะส่งผลให้เกิดการแพ้ได้ง่ายๆ แต่กลับเป็นแมวที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ซะงั้น เพราะอะไรน่ะเหรอ? เนื่องจากขนของแมวสายพันธุ์นี้ประกอบไปด้วยโปรตีนที่มักจะเกิดขึ้นจากน้ำลาย ซึ่ง Fel d 1 ต่ำมาก สายพันธุ์นี้ยังคงเก่าแก่เป็นอย่างมาก เป็นแมวขนาดค่อนข้างใหญ่ ร่าเริง ขี้เล่น และทนต่อความหนาวได้เป็นอย่างดีที่สำคัญเป็นแมวที่ชอบน้ำด้วยนะ ขนของมันสามารถกันน้ำและหิมะได้ด้วยมีถิ่นกำเนิดจากประเทศ รัสเซีย เป็นแมวที่ไม่ชอบเข้าสังคมแต่สามารถเข้าเด็กและเป็นมิตรกับสัตว์อื่นได้เป็นอย่างดี

เดวอน เร็กซ์ (Devon Rex)

สำหรับ พันธุ์แมว เดวอน เร็กซ์ ถือได้ว่ามีลักษณะที่คล้ายกับแมวพันธุ์ คอร์นิช เรกซ์เดวอน เร็กซ์ จะมีขนเป็นแบบชั้นเดียว ขนจะสั้นและหยิกเป็นสำคัญเป็นแมวที่มีการผลัดขนที่ค่อนข้างจะต่ำมาก จึงไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษแมวสายพันธุ์นี้เป็นแมวขนาดกลาง ๆ อายุประมาณ 9 – 13 ปีนิสัยขี้เล่นเป็นสำคัญ พลังเยอะ ชอบกินอาหาร ชอบให้คนสนใจพวกเขาเป็นอย่างมากหัวใหญ่ ทรงสามเหลี่ยม ดวงตากลมโต จมูกงุ้ม หูกาง มองดูคล้ายเอลฟ์ ขนสั้นเป็นลอน หลากสี หลายขนาด และเปราะบางมาก บางตัวก็ไม่มีขน ฉะนั้นห้ามแปรงขนเด็ดขาด

รัสเซียน บลู (Russian Blue)

เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ไม่มีการผลัดขน หรือขนหลุดร่วงน้อย จึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้ผู้เลี้ยงเกิดอาการแพ้ได้มาก ถ้าเดาจากชื่อก็คงตอบได้ไม่ยากเลยว่ามีต้นกำเนิดมาจากทางที่ไหน นั่นก็คือ ตอนเหนือของประเทศรัสเซียนั่นเอง โดยรัสเซียน บลูเนี่ยถือเป็นแมวชนชั้นสูงเพราะถูกเลี้ยงโดยเชื้อพระวงศ์ มีลักษณะเด่น คือ เป็นแมวพันธุ์ใหญ่ ตากลมโต หัวแบนกว้าง ลำตัวยาวเรียว ขนสั้น อ่อน หนา นุ่ม สีเทาเงินล้วน ไร้รอยด่างใด ๆนิสัยสุภาพ เรียบร้อย น่ารัก ขี้อ้อน ขี้เล่น แต่ก็ขี้อายด้วยในบางครั้ง ที่สำคัญฉลาด สามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นได้ดี สำหรับใครที่กลัวว่าน้องว่าเลี้ยงหมดห่วงไปได้เลย เพราะเจ้าตัวนี้ดูแลไม่ยาก แค่แปรงขนสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว

คอร์นิช เร็กซ์ (Cornish Rex)

คอร์นิช เรกซ์ จัดได้ว่าเป็นแมวที่ไม่มีขนบริเวณชั้นนอก ความโดดเด่นของแมวสายพันธุ์คอร์นิช เร็กซ์ คือลักษณะขนที่นุ่มและมีความคล้ายกับขนของพุดเดิ้ลโอกาสที่ขนจะหลุดร่วงก็น้อยมาก ๆ เลยทีเดียว ส่งผลทำให้ คอร์นิช เรกซ์ กลายเป็น แมวน่ารัก ที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนที่เป็นโรคภูมิแพ้อย่างมากที่สุด มีสารก่อภูมิแพ้น้อย และไม่ต้องดูแลเยอะอีกต่างหาก มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษมีนิสัยค่อนข้างร่าเริง ขี้เล่น อยากรู้อยากเห็นเป็นแมวที่เหมาะกับเจ้าของที่มีเวลาให้และค่อยข้างใส่ใจรายละเอียด

แมวบาลีนิส

บาลีนิส (Balinese) เป็นแมวที่ผลิตโปรตีน Fel d 1 ออกมาน้อยมากเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ เพราะเป็นแมวที่ผลัดขนบ่อยและเป็นแมวที่กลายพันธุ์มาจากแมวสยาม พบครั้งแรกในอเมริกา ชื่อของมันมีที่มาจากท่าทางการเดินที่เหมือนการร่ายรำในวัดของชาวบาหลี เนื่องจากมีท่าทางการเดินที่อ่อนช้อยและงดงาม แมวบาลีนิสเป็นแมวขนาดกลาง หนักประมาณ 8-12 กิโลกรัม อายุเฉลี่ยประมาณ 8-10 ปี หัวเป็นทรงสามเหลี่ยม หูกาง มีสีเด่นที่หน้าและหู ลำตัวยาว เพรียว กระดูกบาง แต่ไม่เปราะหักง่าย ขนยาวตรง หลากสี เป็นแมวที่ผลัดขนบ่อยมีนิสัยน่ารัก กระตือรือร้น พลังงานเยอะ แข็งแรง ชอบปีนป่ายและกระโดดขึ้นสูง

วิธีป้องกันอาการแพ้ขนแมว

การไม่เลี้ยงแมวเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการแพ้ขน แต่น่ารักขนาดนี้ ใครจำห้ามใจไหวกันล่ะ ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็มีทางเลือกเพื่อลดอาการแพ้ ดังนี้เลยค่ะ

หลีกเลี่ยงการเลี้ยงแมวในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอน
ล้างมือทุกครั้งหลักจากสัมผัสกับแมว
ถ้าหากในบ้านมีการปูพรม ควรนำพรมออก เพื่อลดการสะสมของสารภูมิแพ้และขนแมว
ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน
หมั่นล้างทำความสะอาดไส้กรองแอร์ และเปลี่ยนเมื่อถึงกำหนด
ดูดฝุ่นภายในบริเวณบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมถึงของเล่นและที่นอนของเจ้าเหมียว และควรใช้หน้ากากปิดจมูกขณะปัดฝุ่นและทำความสะอาดด้วย
เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนังไม่ควรทำจากผ้า เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด
อาบน้ำให้แมวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และแปรงขนให้แมวทุกวัน เพื่อลดเศษขนและฝุ่นละอองที่สะสมไว้
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละต่ำกว่า 150นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
สำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด ให้ใช้ยาพ่นทางคอ เพื่อช่วยป้องกันอาการกำเริบ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการแพ้ให้เร็วที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

Q: ภูมิแพ้ขนแมว สามารถหายได้ไหม?

A: ปัจจุบันนี้ยังไม่มีการรักษาใดที่ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ให้หายขาดได้ วิธีที่ดีที่สุด คือ การหลีกเลี่ยงต้นเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ และรับการรักษาตามอาการของภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้จะช่วยแนะนำว่าการรักษาใดเหมาะสมสำหรับคุณที่สุด โดยทั่วไปใช้วิธีบรรเทาและรักษา 3 วิธี คือ

1.การใช้ยาพ้นสเตียรอยด์

2.ยาหลอดแก้แพ้

3.ภูมิคุ้มกันบำบัด

ถึงแม้จะเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็มีวิธีการบำบัดและรักษาอาการให้บรรเทาลงไปได้ ที่สำคัญควรหาวิธีป้องกัน ขนแมว ควบคู่ไปด้วยก็น่าจะช่วยได้อีกทางหนึ่งเลยล่ะค่ะ

ต่อไปนี้ทาสแมวคนไหนที่แพ้ขนแมวก็ไม่ต้องกังวลหรือลังเลที่จะเลี้ยงเจ้าเหมียวอีกต่อไปแล้วนะคะ แต่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีหรือแนวทางการเลี้ยงสักเล็กน้อย ที่สำคัญควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องก็จะดีมากค่ะ และถ้าใครไม่รู้ว่าจะไปหาข้อมูลเกี่ยวกับน้องได้ที่ไหน ลองเข้ามาที่ PetPlease สิคะ