
อีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงยอดนิยมที่ไม่แพ้หมาแมวนั่นก็คือ ‘ปลาสวยงาม’ นั่นเอง เจ้าปลาเหล่านี้ไม่เพียงแค่มีความสวยงามในตัวมันเอง แต่ผู้เลี้ยงยังสามารถสนุกไปกับการใช้เวลาว่างในการจัดแต่งตู้ปลาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของเด็ก ๆ ได้ด้วย
PetPlease ศูนย์รวมความรู้ด้านสัตว์เลี้ยงครบวงจรมี 6 พันธุ์ปลาสวยงามที่เป็นยอดนิยมมาฝากทุกคนกัน จะสวยงาม น่ารัก น่าเลี้ยงขนาดไหน ตามไปอ่านกันได้เลย
ปลากัด

ปลาชนิดแรกที่จะขาดไปไม่ได้เลยเมื่อพูดถึงปลาสวยงาม นั่นก็คือ ‘ปลากัด’ เชื่อว่าคนไทยทุกคนจะต้องรู้จักแน่นอน ปลากัดเป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก โตเต็มที่ประมาณ 5 – 6 เซนติเมตร มีครีบก้นยาวจรดครีบหาง หางแบนกลม ริมฝีปากหนา ดวงตากลมโตชวนดึงดูดใจของผู้พบเห็น ปลากัดตัวผู้มีสีน้ำตาลเหลือบแดงและน้ำเงินหรือเขียว ครีบสีแดงและมีแถบสีเหลืองประ ส่วนปลากัดตัวเมียจะมีสีซีดอ่อนและมีขนาดลำตัวที่เล็กกว่ามาก แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น มีสีสันที่สวยงามและหลากหลายขึ้นด้วย
วิธีหายใจของมันคือจะว่ายขึ้นมาเหนือผิวน้ำ แล้วอ้าปากเอาอากาศภายนอกเข้าไปโดยไม่ได้หายใจทางเหงือกเช่นเดียวกับปลาชนิดอื่น
รู้หรือไม่? เราสามารถพบเห็นปลากัดได้ในประเทศไทยเท่านั้นนะ โดยในปี พ.ศ. 2556 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้ขึ้นทะเบียนปลากัดให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติของไทยด้วย
ปลาทอง

ปลาสวยงามอีกหนึ่งชนิดที่เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน คือ ปลาทอง นั่นเอง ปลาทองเป็นเป็นปลาน้ำจืด มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีนและญี่ปุ่น ถูกพัฒนาจนมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ในปัจจุบัน จากหลักฐานรูปสลักในบ่อประเทศจีนเมื่อ 2,000 ปีก่อน จึงเชื่อว่าเป็นปลาสวยงามชนิดแรกที่มนุษย์เลี้ยง
ปลาทองมีรูปร่างอ้วน ป้อม มีเกล็ดบางเรียบ ครีบอกกลมแบน และครีบหางเป็นรูปพัด แม้จะชื่อว่าปลาทอง แต่กลับมีหลากหลายสี ทั้งสีแดง สีทอง สีส้ม สีเทา สีดำและสีขาว หรือหลายสีในตัวเดียว
ปลาหางนกยูง

ปลาหางนกบูง เป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดเล็กมาก ความยาวไม่เกิน 5 เซนติเมตร จุดเด่นคือมีครีบหางขนาดใหญ่ ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมียมาก แต่มีสีสันและครีบที่สวยงาม ส่วนตัวเมียมีขนาดตัวใหญ่กว่าตัวผู้ ท้องอูม สีสันน้อยและครีบเล็กกว่า ปลาหางนกยูงบางชนิดยังมี 2 เพศในตัวเดียวกัน จึงสามารถสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศได้
ประเทศไทยได้มีการนำปลาหางนกยูงเข้ามาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการกระจายพันธุ์บริเวณทวีปอเมริกากลางจนถึงอเมริกาใต้ ปลาหางนกยูงไม่เพียงแค่มีความสวยงาม แต่ยังกินลูกน้ำและยุงเป็นอาหาร จึงสามารถช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ที่เกิดจากยุงได้
ปลาคาร์ฟ

ปลาคราฟ เป็นปลาน้ำจืด จัดอยู่ในกลุ่มปลาตะเพียน มีถิ่นกำเนิดในประเทศอิหร่าน โดยประเทศไทยมีการนำเข้ามาเลี้ยงครั้งแรกจากประเทศญี่ปุ่นช่วงปี พ.ศ. 2493
ปลาคราฟ มีลักษณะลำตัวแบน ค่อนข้างกลม หัวไม่มีเกร็ด ริมฝีปากบางเรียบ ไม่มีฟันในปาก แต่กลับมีฟันที่ลำคอ ลำตัวมีครีบหลัง ครีบหู ครีบท้อง และครีบหาง บางชนิดไม่มีเกล็ด ปลาคราฟสามารถกินได้ทั้งแพลงตอนพืช และสัตว์ และหอยได้ด้วย
สีของปลาคราฟเป็นสารสีที่มาจากสารแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดสีในในแต่ละวันขึ้นอยู่กับอาหารที่กินเข้าไป โดยจะให้สีเหลือง ส้ม และแดง
ปลาเทวดา

ปลาเทวดา เป็นปลาน้ำจืดในวงศ์ปลาหมอสี มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมรูปว่าว ลำตัวแบน ปากเล็ก ครีบหลังเป็นกระโดงสูงค่อนไปทางหาง ครีบหลังบานยาวออกมาจากลำตัว ครีบท้องมีอยู่หนึ่งคู่เรียวเล็กและปลายชี้แหลม
ปลาเทวดามีพฤติกรรมอาศัยอยู่รวมเป็นฝูงในถิ่นที่มีพืชพรรณไม้น้ำขึ้นหนาแน่นและค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ประมาณ 5 – 5.5 ในการทำเหมืองใต้ดินในอดีตจึงมีการหย่อนปลาเทวดาลงไปทดสอบก๊าซพิษก่อน
สีสันของปลาเทวดามีหลากหลายขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของมัน มีทั้งสีดำสลับขาว สีดำล้วนทั้งตัว สีขาวล้วนทั้งตัว ไปจนถึงสีทอง และสีเหลืองอ่อน
ปลานีออน

ปลานีออน เป็นปลาขนาดเล็ก มีขนาดโตเต็มที่ไม่เกิน 1 นิ้ว ที่มีนิสัยชอบอยู่รวมเป็นฝูงใหญ่ในระดับกลางน้ำในป่าดิบชื้น มีรูปทรงยาวรี คล้ายเม็ดข้าวสาร ตาโต มีครีบบางใส และมีครีบไขมันขนาดเล็กที่โคนหาง ลำตัวมีเกล็ดขนาดเล็กมันวาวปกคลุมทั้งตัว ส่วนหลังจะสีเหลือบเขียวมะกอก มีเส้นเรืองแสงสีเขียวอมฟ้าพาดตั้งแต่จมูกผ่านลูกตายาวไปสุดที่ครีบไขมัน จึงเป็นที่มาของชื่อ ปลานีออน ของมัน ส่วนท้องเป็นสีขาวเงิน หลังจากช่องท้องไปถึงโคนหางมีสีแดงสด
ปลานีออนมีนิสัยขี้ตื่น ชอบกระโดด จึงแนะนำให้เลี้ยงในตู้ที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้มันกระโดดออกนอกตู้
ปลาสวยงามก็เป็นสัตว์เลี้ยงอีกชนิดที่คนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ดูเล่นเพื่อผ่อนคลายในวันที่เหนื่อยล้า บ้างก็เลี้ยงไว้เพื่อธุรกิจด้วย เพราะปลาสวยงามเหล่านี้มีมูลค่าไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะ