ชาวหอพักหรือชาวคอนโดคนไหนที่กำลังมองหาสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ แน่นอนว่าในโลกนี้ก็มีตัวเลือกให้เลือกมากมาย นอกจากหมา แมวแล้ว วันนี้ PetPlease ก็ได้รวบรวมสัตว์เลี้ยงหอพัก เลี้ยงได้ไม่รบกวนเพื่อนข้างห้อง มาให้ทุกคนได้เลือกกันว่าจะเลี้ยงอะไรในหอดีน้า~ ถ้าทุกคนอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างก็เลื่อนลงมาข้างล่างเลย!
บทความนี้ขอนำเสนอ
- เม่นแคระ
- แฮมสเตอร์ หรือแกสบี้
- ปลาสวยงาม
- เต่าญี่ปุ่น
- กระต่ายพันธุ์เล็ก
- คำถามที่พบบ่อย
เม่นแคระ
มาเริ่มกันที่เม่นแคระ หรือชื่อจริง ๆ เรียกว่า เฮดจ์ฮอก เป็นสัตว์เลี้ยงที่เหมาะกับคนที่พักอยู่ในหอพัก คอนโด และมือใหม่หัดเลี้ยงสัตว์มาก ๆ เพราะเจ้าเม่นแคระเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ต้องการพื้นที่เยอะ เหมาะสำหรับคนไม่มีเวลา และไม่เสียงดังรบกวนข้างห้องแน่นอน! แต่ก่อนจะเริ่มเลี้ยง มารู้จักนิสัยของเจ้าเม่นแคระกันก่อนดีกว่า
ลักษณะนิสัย
เม่นแคระ เป็นสัตว์ที่รักสงบ ชอบอยู่แบบสันโดษ สามารถอยู่ตัวเดียวแบบไม่ต้องมีคู่ได้ทั้งชีวิต และอีกหนึ่งนิสัยของเม่นแคระที่ควรรู้ คือ เม่นแคระไม่ใช่สัตว์ที่ขี้อ้อน แถมยังไม่ค่อยชอบให้โดนตัวด้วย เม่นแคระจะจดจำคนเลี้ยงด้วยกลิ่น แต่ถ้าผิดกลิ่นเมื่อไหร่ เจ้าเม่นแคระจะพองขนเพื่อป้องกันตัวจากอันตราย
นอกจากนี้เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืนอีกด้วย ดังนั้นเจ้าเม่นแคระจึงเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเลี้ยงมาก เพราะตอนกลางวันน้องจะหลับ ตอนกลางคืนจะตื่นมาวิ่งเล่น อาจจะทำให้เกิดเสียงดังได้ ถ้าใครนอนหลับยาก เจ้าเม่นแคระอาจจะไม่เหมาะกับคุณก็ได้นะ
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง
ถึงเจ้าเม่นแคระจะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย แต่สัตว์แต่ละตัวก็มีนิสัยและพฤติกรรมที่แตกต่างกันออกไป การเลี้ยงก็เช่นกัน มาดูกันดีกว่า ว่ามีอะไรที่ควรรู้ก่อนเลี้ยงสัตว์น่ารัก ๆ แบบเจ้าเม่นแคระกันบ้าง?
- เม่นแคระไม่ชอบอาบน้ำ
เม่นแคระเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบอาบน้ำ ควรอาบให้เดือนละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว การอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้เจ้าเม่นแคระเป็นปอดบวมได้ และควรเช็ดตัว เป่าขนให้แห้งทันทีหลังอาบน้ำเสร็จ และอีกข้อสำคัญที่ควรรู้ คือ เม่นแคระสามารถอาบน้ำได้หลังอายุ 3 เดือนขึ้นไป แต่หากอายุต่ำกว่า 3 เดือน ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ ให้ใช้การใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดแทน
- เม่นแคระก็ต้องออกกำลังกายนะ!
เม่นแคระก็เป็นสัตว์อีกชนิดนึงที่สามารถเกิดโรคอ้วนได้ง่าย หากขาดการออกกำลังกาย ให้อาหารที่เกินพอดี หรืออยู่ในที่อยู่อาศัยที่มันเล็กเกินไป ซึ่งวิธีแก้ให้เจ้าเม่นแคระไม่อ้วน คือ “การออกกำลังกาย” ให้เจ้าเม่นแคระได้เดินเยอะขึ้น หรืออาจจะมีวงล้อให้วิ่งแบบแฮมสเตอร์ก็ดีนะ!
- เม่นแคระก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัว
นอกจากคนเราจะต้องการพื้นที่ส่วนตัวแล้ว เจ้าเม่นแคระก็ต้องการมีพื้นที่ส่วนตัวเช่นกัน เราควรจะทำพื้นที่ส่วนตัวให้น้อง เพื่อเวลาที่น้องรู้สึกกลัว รำคาญ หรือเบื่อ ก็สามารถเข้าไปหลบอยู่ได้
แฮมสเตอร์ หรือแกสบี้
สัตว์เลี้ยงคู่ใจที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับชาวคอนโดและหอพัก คือ หนูแฮมสเตอร์ และหนูแกสบี้นั่นเอง เนื่องจากหนูเป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวที่เล็ก สามารถเลี้ยงในพื้นที่ที่จำกัดได้ ไม่ต้องการความสนใจเยอะเท่าน้องหมาหรือแมว แถมยังมีหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูอีกด้วย
นอกจากนี้หนูยังเป็นสัตว์ที่ไม่ส่งเสียงดัง จึงเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในหอพัก หรือคอนโดได้อย่างดี ใครที่วางแผนจะเลี้ยง ลองมาทำความรู้จักกับนิสัยของเจ้าหนูกันดีกว่าค่ะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงนั่นเอง!
ลักษณะนิสัย
ถึงแม้ว่าเจ้าแฮมสเตอร์ และแกสบี้จะเป็นหนูเหมือนกัน แต่เจ้าสองตัวนี้มีนิสัยที่ค่อนข้างแตกต่างกันมาก เช่น
- เจ้าแฮมสเตอร์ เป็นสัตว์ที่มีนิสัยค่อนข้างขี้อาย แต่ชอบอยากรู้อยากเห็น ชอบนอนตอนกลางวันและออกมาวิ่งเล่นในตอนกลางคืน ชอบอมอาหารไว้ที่แก้มทั้งสองข้าง นอกจากนี้หนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่มีทั้งนิสัยดุร้าย และนิสัยไม่ดุร้าย ซึ่งขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของเขา
- เจ้าแกสบี้ หรือหนูตะเภา น้องมีนิสัยร่าเริง กินเก่ง ขี้สงสัย ขี้เล่น และเชื่องมาก สามารถป้อนอาหารกับมือได้ อุ้มได้ และจับแต่งตัวได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีนิสัยน่ารักและเลี้ยงง่ายสุด ๆ
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง
นอกจากนิสัยที่จำเป็นต้องรู้แล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องเลยที่เราต้องรู้ก่อนจะเลี้ยงเจ้าหนูสองสายพันธุ์นี้ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องรู้เพิ่มเติม?
- แกสบี้อายุยืน แฮมสเตอร์อายุสั้น
แกสบี้มีอายุขัยเฉลี่ย 5-7 ปี ต่างกับเจ้าแฮมสเตอร์ที่จะมีอายุขัยเฉลี่ยแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของเรา ถ้าเราดูแลดี รับรองว่าไม่ว่าจะเจ้าแกสบี้หรือแฮมสเตอร์ก็จะอยู่เราไปได้นานแน่ ๆ !
- หนูสองตัวอยู่รวมกันไม่ได้
หนูเป็นสัตว์หวงอาณาเขต การเอามาเลี้ยงรวมกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างมาก เพราะน้องจะกัดกันเองได้ ถ้าจะเลี้ยงหนูรวมกันแนะนำให้เลี้ยงหนูสายพันธุ์โรโบค่ะ แต่ทางที่ดีที่สุดเลี้ยงแยกจะดีกว่าค่ะ เพราะการเลี้ยงรวมกันจะทำให้หนูเกิดความเครียดได้
- แฮมสเตอร์ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ
หนูเป็นสัตว์ที่ชอบนอนทับฉี่ของตัวเอง จึงทำให้หนูมักมีกลิ่นฉี่ติดตัวเสมอ แต่การจะจับมาหนูมาอาบน้ำทุกวันก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรนัก เพราะอาจจะทำให้น้องป่วยได้ อาจจะเปลี่ยนให้น้องคลุกทรายเพื่อทำความสะอาดตัวแทน
ส่วนเจ้าแกสบี้ เป็นหนูที่มีขนค่อนข้างยาว ทำให้ต้องอาบน้ำและดูแลเรื่องขนเป็นประจำ เจ้าแกสบี้ควรอาบน้ำให้ทุก ๆ 2 อาทิตย์ เพื่อรักษาความสะอาด หลังจากอาบน้ำก็ต้องเป่าขนให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา และหวีขนเพื่อให้ไม่พันกัน
- หนูแฮมสเตอร์จดจำคนด้วยกลิ่น
การจดจำคนนั้น มักจะแตกต่างกันออกไปในสัตว์แต่ละสายพันธุ์ ซึ่งเจ้าหนูแฮมสเตอร์เป็นสัตว์ที่จดจำคนด้วยกลิ่นเช่นเดียวกับเม่นแคระ ดังนั้นเราไม่ควรฉีดน้ำหอมหรือทำให้ตัวเองมีกลิ่นที่เปลี่ยนไป ไม่งั้นน้องจะไม่สามารถจำเราได้ ส่วนเจ้าแกสบี้ ถือว่าเป็นสัตว์ที่ฉลาดมาก เพราะพวกมันสามารถจดจำคนได้ยันเสียงฝีเท้าเลยล่ะ!
ถ้าใครอยากให้สัตว์เลี้ยงจำตัวเองก็ได้ ก็ต้องแวะมาเล่นกับน้องบ่อย ๆ เพื่อให้น้องได้จดจำเรานะคะ
ปลาสวยงาม
ปลา เป็นสัตว์อีกชนิดหนึ่งที่เหมาะกับคนที่พักอาศัยอยู่ในหอพักหรือคอนโดมาก เพราะการเลี้ยงปลาใช้พื้นที่ไม่เยอะ แถมยังไม่มีปัญหาเรื่องการส่งเสียงดังอีกด้วย ซึ่งปลาที่มักนิยมเลี้ยงในคอนโด มีดังนี้
- ปลาหางนกยูง
ปลาหางนกยูง เป็นปลาที่เลี้ยงค่อนข้างง่าย ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงไม่เยอะ เพราะเมื่อน้องโตเต็มวัยจะมีขนาดแค่ 5 นิ้วเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดอย่างเช่นหอพักหรือคอนโดมาก ๆ ค่ะ
- ปลาเสือเยอรมัน
สำหรับใครที่อยากเลี้ยงปลาขนาดเล็ก ปลาเสือเยอรมันถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือก เพราะมีขนาดโตเต็มวัยเพียง 2 – 3 นิ้ว เท่านั้น จุดเด่นของปลาเสือเยอรมัน คือ หลังช่องเหงือกมีแถบสีดำ 2 แถบ ชายครีบก้นมีขนาดยาว เกร็ดสีเงินเป็นประกายสวยงาม แต่ควรเลี้ยงในตู้ปลาที่มีขนาดใหญ่กว่า 10 แกนลอน เพราะปลาชนิดนี้มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง จึงต้องการพื้นที่ว่ายน้ำ
- ปลากัด
ปลากัดเป็นปลาสวยงามที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย นอกจากความสวยงามแล้ว ปลากัดยังเป็นสัตว์ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก สามารถเลี้ยงในตู้ก็ได้หรือเลี้ยงในขวดโหลเล็ก ๆ ก็ได้ นอกจากนี้ปลากัดยังเป็นปลาที่มีร่างกายแข็งแรง ทำให้ไม่ต้องดูแลมากเท่าปลาสายพันธุ์อื่น ๆ
- ปลาเชอรี่บาร์บ
ปลาเชอรี่บาร์บ เป็นปลาที่ค่อนข้างดื้อ บางครั้งพวกมันมีพฤติกรรมแปลก ๆ ชอบคุกคามปลาตัวอื่นที่มีขนาดเล็กกว่า มีลำตัวเพรียวยาว ด้านข้างแบน ครีบสีชมพู และแผ่นหลังสีน้ำตาล ปลาเชอร์รี่บาร์บเหมาะกับการเลี้ยงในตู้ปลาขนาดใหญ่ และจะต้องประดับตู้ปลาด้วยพืช ก้อนหิน และไม้ประดับชนิดต่าง ๆ
- ปลาม้าลาย
ปลาม้าลาย เป็นปลาที่มีความแข็งแรงทนทาน มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีลักษณะลำตัวเรียวยาว และลวดลายคล้ายกับม้าลาย เส้นสีดำสลับสีเงิน แต่บางชนิดก็จะเป็นลายจุด เมื่อตัวโตเต็มวัยจะมีขนาดยาวประมาณ 2 นิ้ว
- ปลานีออน
ถ้าใครชอบปลาขนาดเล็ก แนะนำปลานีออนที่มีขนาดเล็ก น่ารัก สีสันสวยงาม ถึงปลานีออนจะมีขนาดเล็ก แต่ต้องเลี้ยงในตู้ปลาที่มีขนาด 10 แกลลอนขึ้นไป เพื่อให้ปลาสามารถแหวกว่ายได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ภายในตู้ต้องตกแต่งด้วยพืชน้ำ ขอนไม้และหินกรวด เพื่อให้ปลานีออนมีพื้นที่ซ่อนตัว และวางไข่ขยายพันธุ์ได้
- ปลาสอด
สำหรับใครที่อยากเลี้ยงปลาทอง แต่ไม่มีเวลาที่จะใส่ใจดูแลมากนัก แนะนำให้เลี้ยงปลาสอด ที่มีสีส้มเหลื่อมทองคล้ายกับปลาทอง สามารถเลี้ยงในตู้ขนาดเล็กได้ ปลาสอดเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายไม่ค่อยพบปัญหาในระหว่างการเลี้ยง จึงถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมาก สำหรับคนที่กำลังมองหาปลามาเลี้ยง
- ปลาเทวดา
ปลาเทวดา หรือ Angel Fish เป็นปลาน้ำจืดที่มีลำตัวแบน กว้าง และความยาวเท่ากับความกว้าง มีครีบหลัง ครีบหางและครีบก้น โดยมีจุดเด่นที่ครีบท้องเป็นเส้นยาว ลำตัวมีสีเงินแกมเทา และลายดำพาดข้างลำตัว โดยลวดลายจะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ ปลาเทวดาเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงในตู้ปลาได้แต่ควรเลี้ยงหลาย ๆ ตัว เนื่องจากปลาชนิดนี้มักอยู่รวมกันเป็นฝูง และเป็นปลาที่สามารถเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่น ๆ ได้
- ปลาบอลลูน
ปลาบอลลูน มีลักษณะเด่นที่ลำตัวกลม สั้น และอ้วนเหมือนลูกบอลลูน มีให้เลือกหลายสี เช่น สีขาว สีดำ สีเหลือง ลายขาว-ดำ ลายขาว-ดำ-เหลือง เป็นปลาที่ขยายพันธุ์ง่าย ดังนั้นในตู้ปลาจึงต้องมีไม้น้ำ สาหร่าย ผักตบชวา เชือกปอฟางฉีกฝอย เพื่อให้ลูกปลามีพื้นที่ซ่อนตัว และควรให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสมไม่เช่นนั้นจะทำให้น้ำเน่าเสียได้
- ปลาทอง
ปลาทองเรียกได้ว่าเป็นปลายอดนิยม เนื่องจากปลาทองมีสีทองที่ถือว่าเป็นสีมงคล การเลี้ยงปลาทองนั้น ต้องเลี้ยงในน้ำที่สะอาดเป็นพิเศษ ต้องมีการให้ออกซิเจนในน้ำเสมอ ๆ เนื่องจากปลาทองต้องเลี้ยงในที่ที่สะอาดมาก ๆ ดังนั้นผู้เลี้ยงจะต้องมีการทำความสะอาดตู้บ่อย ๆ และต้องหยอดวิตามินเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับปลาทองด้วย
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง
ปลาเป็นสัตว์ที่ดูเหนือนจะเลี้ยงง่าย แค่เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ให้อาหารเป็นเวลา แต่จริง ๆ แล้ว เรื่องที่ควรรู้ก่อนเลี้ยงปลามีเยอะแยะมากมาย สำหรับที่วางแผนจะเลี้ยงปลา อยากให้ลองอ่านข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงปลาให้จบก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็ได้ค่ะ
- ควรแช่ถุงใส่ปลาลงน้ำในตู้ก่อน เพื่อปรับอุณหภูมิ
มีหลาย ๆ ครั้งที่คนซื้อปลามาแล้วไม่แช่ถุงลงน้ำในตู้ก่อน การทำแบบนั้นจะทำให้ปลาเกิดอาการช็อคน้ำได้ เนื่องจากปรับอุณหูมิร่างกายไม่ทัน ฉะนั้นใครที่ซื้อปลามา แนะนำให้นำถุงที่ใส่ปลาไปแช่ในน้ำ ในภาชนะที่เราเติมน้ำก่อนดีกว่าค่ะ
- ไม่ควรเลี้ยงปลาในน้ำประปา
ในน้ำประปาจะมีคลอรีน ซึ่งจะทำให้ปลาหายใจหอบ ตัวซีดขาว เซลล์ถูกทำลาย และตายในที่สุด
ดังนั้นก่อนจะนำปลามาเลี้ยง ให้พักน้ำประปาก่อนนำมาเลี้ยงอย่างน้อย 1 วัน
- ใส่เกลือในน้ำทุกครั้ง
การใส่เกลือลงในน้ำ จะช่วยลดความเครียดให้ปลาได้ และยังช่วยให้เหงือกกับ ไตของปลาทำงานที่ได้ดีขึ้น ลดการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้เกลือยังช่วยฆ่าเชื้อโรคในน้ำได้อีกด้วย
เต่าญี่ปุ่น
เต่าญี่ปุ่น เป็นสัตว์ที่มีขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก เมื่อโตเต็มวัยจะมีขนาดแค่ 1 ฟุตเท่านั้น น้องจะมีลักษณะแตกต่างจากเต่าบ้านเราในเรื่องของลวดลายสีสัน และปัจจุบันได้มีการนำมาเพาะพันธุ์ให้ได้สีต่าง ๆ เช่น สีเผือก สีเหลืองส้ม สีพาสเทล เป็นต้น และเต่ายังขึ้นชื่อว่าเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนที่สุด เต่าญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน สามารถมีอายุนานถึง 30-40 ปี กันเลยทีเดียว ใครที่คิดจะเลี้ยงอยากให้ลองคิดดูดี ๆ นะคะ ว่าสามารถจะเลี้ยงน้องได้ไปตลอดรึเปล่า?
ลักษณะนิสัย
เต่าญี่ปุ่นเป็นสัตว์ที่มีนิสัยค่อนข้างดุ แต่ถือว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย กินง่าย กินไม่เลือกทั้งพืชและสัตว์ เต่าญี่ปุ่นนอกจากจะชอบว่ายน้ำแล้วยังชอบอาบแดดตอนเช้าอีกด้วย แสงแดดจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร การเจริญเติบโต ช่วยดึงสารอาหารไปใช้ รวมถึงฆ่าเชื้อโรค เชื้อราที่ติดอยู่ตามกระดองและผิวหนังให้หมดไปอีกด้วย
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง
เต่าถือเป็นสัตว์ที่อายุยืนมาก ๆ บางตัวอยู่ได้นานถึง 30-40 ปี เต่าญี่ปุ่นเองก็เช่นกัน ด้วยระยะเวลานานที่นานขนาดนี้ อาจจะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่ตามมาได้ในอนาคต ดังนั้นก่อนจะเลี้ยง มาดูกันดีกว่าว่าเราต้องรู้อะไรเกี่ยวกับการเลี้ยงเจ้าเต่าญี่ปุ่นบ้าง?
- เต่าต้องได้รับแสงแดดอ่อน ๆ ยามเช้า
เต่าญี่ปุ่นเป็นสัตว์เลือดเย็น แสงแดดจากดวงอาทิตย์จึงสำคัญมาก ๆ เพราะแสงแดดจะช่วยเพิ่มอุณหภูมิร่างกาย ฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ดังนั้นสถานที่ที่ใช้เลี้ยงเต่าควรเป็นที่ที่โดนแสงแดดยามเช้าสัก 1-2 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่สะดวกพาเต่าไปอาบแดด ให้ใช้หลอดไฟ UV แทนก็ได้เช่นกัน
- เต่าญี่ปุ่นจะกินและถ่ายในน้ำ
ลักษณะนิสัยของเต่าญี่ปุ่น จะกินและถ่ายในน้ำ ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ยิ่งเต่าตัวโตขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น เขาจะยิ่งถ่ายบ่อยกว่าเดิม เราจึงควรเปลี่ยนน้ำเป็นประจำทุกวัน หากไม่เปลี่ยนอาจจะทำให้เต่าป่วยได้
กระต่ายพันธุ์เล็ก
กระต่าย เป็นสัตว์ที่นิยมรองลงมาจากหมาและแมวเลย เพราะมีขนที่นุ่มฟู หูยาว น่ารัก แต่ด้วยในพื้นที่ที่จำกัดอย่างคอนโดหรือหอพัก กระต่ายที่เราสามารถเลี้ยงได้ คือ กระต่ายพันธุ์เล็ก เช่น มินิเร็กซ์ เนเธอร์แลนด์ดวอร์ฟ ฮอลแลนด์ลอป ดัตช์ เป็นต้น
ลักษณะนิสัย
นิสัยของกระต่ายมักจะแตกต่างออกไปตามสายพันธุ์ เช่น
- กระต่ายพันธุ์เนเธอร์แลนด์ดวอฟ จะซนและมีความอยากรู้อยากเห็น เข้ากับคนได้ง่าย ร่าเริง และชอบเล่นกับเจ้าของสามารถที่จะฝึกนิสัยได้และอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นได้
- กระต่ายพันธุ์ฮอลแลนด์ลอป มีนิสัยที่ค่อนข้างเชื่อง จดจำเก่งและติดเจ้าของ
- กระต่ายพันธุ์ดัตช์ เป็นมิตรกับทุกคน ไม่ก้าวร้าว ไม่เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาเลี้ยง เพราะเจ้าตัวนี้ต้องการได้รับความใส่ใจจากเจ้าของ
ข้อควรรู้ก่อนเลี้ยง
กระต่ายถึงแม้จะตัวเล็ก น่ารัก แต่เป็นสัตว์อีกชนิดนึงที่เลี้ยงยากมาก ๆ ก่อนที่ทุกคนจะนำเจ้ากระต่ายมาเลี้ยงต้องศึกษาวิธีการเลี้ยงอย่างละเอียด เพื่อที่น้องจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ แล้วข้อควรรู้ก่อนเลี้ยงมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!
- ห้ามเลี้ยงกระต่ายในตู้กระจกเด็ดขาด
การเลี้ยงกระต่าย ห้ามเลี้ยงในตู้กระจกเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้น้องขาดอากาศหายใจได้ เนื่องจากอากาศไม่ถ่ายเท และกรงที่จะเลี้ยงเจ้ากระต่ายต้องแข็งแรง ควรเลือกใช้วัสดุที่ทำจากลวด หรือสแตนเลส ไม่ควรเลือกวัสดุที่หุ้มด้วยพลาสติก เพราะเขาอาจจะกัดแทะวัสดุจนเป็นอันตรายได้นั่นเองค่ะ
- กระต่ายกินอึตัวเอง
กระต่ายมักจะมีพฤติกรรมกินอึของตัวเอง เพราะว่าอึของกระต่ายจะมีวิตามินบี โปรตีนและแบคทีเรียชนิดดีอยู่ การกินอึของตัวเอง ถือเป็นการปรับลำไส้ของเจ้ากระต่ายให้เป็นปกติในทุกเช้านั่นเองค่ะ
- ห้ามจับหูกระต่าย
หูกระต่ายเป็นอวัยวะที่ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะที่หูกระต่ายมีเส้นเลือดฝอยอยู่เยอะมาก หากจะจับหรืออุ้มเจ้ากระต่ายให้จับตรงท้ายทอยแทน ป้องกันอักเสบของหู
คำถามที่พบบ่อย
Q: กระต่ายชอบกินแครอทจริงไหม?
A: กระต่ายชอบกินแครอทจริง แต่ไม่ควรให้เป็นอาหารหลัก เพราะในแครอทมีปริมาณน้ำตาลสูง หากกินในปริมาณที่เยอะเกินไป อาจจะทำให้เกิดโรคร้ายแรงกับกระต่ายได้
Q: ให้แฮมสเตอร์กินเมล็ดทานตะวันเป็นอาหารหลักได้ไหม?
A: สามารถให้แฮมสเตอร์กินเมล็ดแทนตะวันได้ แต่ไม่ควรให้เป็นอาหารหลัก เพราะเมล็ดทานตะวันมีไขมันที่สูงมากพอ ๆ กับหนอนนก
เป็นอย่างไรกันบ้างคะชาวหอพัก ชาวคอนโด ถูกใจกับสัตว์เลี้ยงที่เราเลือกมาให้กันรึเปล่า หากใครสนใจจะเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ อย่าลืมศึกษาอุปนิสัย และการเลี้ยงดูสัตว์แต่ละชนิดให้ดีก่อนนะคะ ว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์และความพร้อมของเราแล้วหรือยัง ถึงแม้ว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะไม่ได้ต้องการพื้นที่มาก แต่ก็ต้องการความใส่ใจนะคะ ดังนั้นถ้าซื้อมาเลี้ยงแล้ว อย่าลืมรักน้องกันเยอะ ๆ น้า
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- พฤติกรรมน่ารู้ของเม่นแคระ
- 10 พฤติกรรมที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับหนูแฮมเตอร์
- 12 เรื่องที่ต้องรู้ วิธีเลี้ยงหนูแกสบี้ หนูตะเภา สำหรับมือใหม่
- 12 ชนิดปลาสวยงามน่าเลี้ยงบนคอนโด พื้นที่น้อยก็เลี้ยงได้นะ
- เต่าญี่ปุ่น (Red-eared Slider) สัตว์เลี้ยงน่ารัก อายุยื๊นยืน
- ลักษณะนิสัยกระต่ายแต่ละสายพันธุ์
- รู้จักนิสัย “กระต่าย” หลากหลายสายพันธุ์พร้อมวิธีเลี้ยง
AUTHOR: MEW
2022, DEC 15