“ชิบะอินุ” เป็นสุนัขประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น เราเชื่อว่าสุนัขสายพันธุ์นี้คงเป็นที่พบเห็นผ่านหน้าผ่านตาของพวกเราอยู่บ่อย ๆ ด้วยลักษณะหน้าตาที่เหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกมันเป็นที่นิยมไม่แพ้กับสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ เลยค่ะ
วันนี้ PetPlease จึงอยากพาทุกคนมารู้จักกับชิบะอินุ สุนัขหน้ายิ้มที่ใครเห็นก็ต่างตกหลุมรัก ว่าแต่มีเรื่องอะไรน่าสนใจบ้างเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้บ้าง มาอ่านกันดีกว่า!
บทความนี้ขอนำเสนอ
- ประวัติความเป็นมาของชิบะ
- ลักษณะทั่วไปของชิบะ
- พฤติกรรมและนิสัยของชิบะ
- อาหารและโภชนาการของชิบะ
- การดูแลที่ “ชิบะอินุ” ต้องการเป็นพิเศษ
- โรคที่ชิบะมีความเสี่ยงสูง
- ชิบะอินุเหมาะกับเจ้าของแบบไหน
ประวัติความเป็นมาของชิบะ
หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินชื่อของสุนัขสายพันธุ์นี้อยู่บ่อย ๆ รู้ไหมคะว่าจริง ๆ แล้ว “ชิบะอินุ” มีความหมายเฉพาะตัวด้วย ซึ่งความหมายก็คือ “สุนัขไม้พุ่มตัวน้อย” มาจาก “inu” ที่หมายถึงสุนัข และ “shiba” ที่หมายถึงพุ่มไม้นั่นเองค่ะ เป็นไปได้ว่าพวกมันถูกตั้งชื่อตามภูมิประเทศที่พวกเขาล่าสัตว์หรือสีของขนซึ่งเป็นสีของพุ่มไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
ชิบะอินุ เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 2,300 ปีที่แล้ว มีต้นกำเนิดสายพันธุ์มาจากสุนัขล่าสัตว์ที่เติบโตอยู่ในบริเวณภูเขา ในสมัยนั้นชิบะถูกเลี้ยงให้เป็นสุนัขล่าสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น กระต่าย สุนัขจิ้งจอก นก เป็นต้น
ก่อนจะมีสงครามโลกครั้งที่ 2 ชิบะได้มีทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ มิโน ซันอิน และชินชู แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ชิบะอินุเกือบจะสูญพันธุ์ไป เพราะขาดแคลนอาหาร มีโรคระบาดและโดนระเบิด แต่ในภายหลังก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์จนกลับมามีจำนวนเยอะมากขึ้น ซึ่งชิบะในปัจจุบันเกิดจากการผสมผสานระหว่างชิบะดั้งเดิมทั้งสามสายพันธุ์ ส่วนใหญ่จะเกิดมาจากสายพันธุ์ชินชู เพราะเป็นสายพันธุ์ที่รอดตายเยอะที่สุด
ลักษณะทั่วไปของชิบะ
โดยปกติแล้วสุนัขสายพันธุ์ชิบะอินุมักถูกเรียกกันว่า “นิปปอนอินุ” เพราะเป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งสามารถแบ่งได้ 6 สายพันธุ์ ตามท้องถิ่นภูมิประเทศของบรรพบุรุษ แต่ละพันธุ์ก็มีขนาดต่างกัน เลี้ยงยากง่ายก็ต่างกันไปด้วย มีสายพันธุ์อะไรบ้างมารู้จักไปพร้อมกันเถอะ!
ชิบะอินุ
ชิบะอินุนับว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดานิปปอนอินุด้วยกัน ชิบะว่าถือเป็นสุนัขขนาดกลาง เพศผู้ตัวโตเต็มวัยจะสูงประมาณ 39.5 ซม. ส่วนเพศเมียสูง 36.5 ซม. ถือว่าขนาดเล็กสุดในสายพันธุ์นี้ รูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ขนสั้น 2 ชั้น สีขนมีทั้งสีดำผสมสีน้ำตาล สีแดง หรือ สีงาแดง ดวงตาสดใสและรูปริมฝีปากโค้งเหมือนกับกำลังยิ้ม สุนัขสายพันธุ์นี้จะโตเต็มวัยเมื่ออายุ 12 เดือน และเข้าสู่ช่วงสูงวัยเมื่ออายุ 7 ปี
อาคิตะอินุ
อาคิตะเป็นสุนัขพื้นเมืองในจังหวัดอากิตะซึ่งมีประวัติมายาวนานตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะ มีความฉลาด แสนรู้และสง่างาม มีขนาดตัวไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป ส่วนสูงของอาคิตะอยู่ที่ 60-70 เซนติเมตร และมีน้ำหนักตัวประมาณ 35-60 กิโลกรัมค่ะ สีเฉพาะของอาคิตะอินุ คือ สีแดง, ขาว, ดำ, ลายเสือ, สีงา
ไคเค็นอินุ
เป็นสุนัขพื้นเมืองในจังหวัดยามานาชิ มีขนาดตัวที่เล็กกว่าอาคิตะอินุเล็กน้อย ถือเป็นสายพันธุ์ที่หายากอีกสายพันธุ์หนึ่งในญี่ปุ่น ไคเค็นอินุจะมีขนที่เป็นเอกลักษณ์คือสีขนแซมเป็นชั้น ๆ เช่นแซมแดง แซมดำจนเกิดเป็นลวดลายบนร่างกาย ทำให้ไคเค็นอินุมีนามแฝงที่รู้จักกันดีว่า “สุนัขขนเสือ“ โดยปกติแล้วส่วนสูงของไคเค็นอินุจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 9-18 กิโลกรัม
คิชูอินุ
เป็นสุนัขญี่ปุ่นที่มีถิ่นกำเนิดในจังหวัดมิเอะและวากายามะ ส่วนใหญ่สายพันธุ์นี้จะมีขนสีขาว แต่สีด่างลายเสือและสีงาก็ยังสามารถพบเห็นได้อยู่บ้างเช่นกัน ลักษณะรูปร่างของคิชูอินุ ค่อนข้างสมส่วน กล้ามเนื้อหัวขนาดใหญ่ มีใบหูเป็นรูปสามเหลี่ยมตั้งชัน และตารูปสามเหลี่ยมที่มีม่านตาสีน้ำตาลอ่อน ๆ หางเหมือนหมาป่ามากกว่าหางที่โค้งขดแบบชิบะอินุ และร่างกายก็ปกคลุมไปด้วยขนสองชั้นโดยขนชั้นนอกจะแข็งตรง ขนชั้นในจะนุ่มหนาแน่น ความสูงเฉลี่ยของตัวผู้คือ 50-55 เซนติเมตร ของตัวเมียอยู่ที่ 45-50 เซนติเมตร น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 18-25 กิโลกรัม
ชิโคคุอินุ
สุนัขสายพันธุ์นี้อยู่ในจังหวัดโคจิ มีลักษณะคล้ายกับหมาป่า มีขนาดตัวที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ มีสีขนที่สังเกตได้ง่าย คือ ขนจะมีสีโทนน้ำตาลไล่มาเทาจนไปถึงดำ ชิโคคุอินุเป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อที่สมดุลและได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดี มีหูแหลมและหางขด มีโครงสร้างของกระดูกที่ค่อนข้างแข็งแรง มีขนสองชั้น โดยขนชั้นนอกจะค่อนข้างกระด้างและตรง ส่วนขนชั้นในนั้นนิ่มและแน่น มีส่วนสูงอยู่ที่ 49-52 เซนติเมตร และมีน้ำหนักประมาณ 15-25 กิโลกรัม
ฮอกไกโดอินุ
ฮอกไกโดอินุ เป็นสุนัขที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง มีพลังงานสูง มีขนที่ยาวและหนา และยังมีช่วงอกกว้าง หูเล็ก มีดวงตาเล็กรูปทรงเมล็ดอัลมอนด์ ปากและจมูกมีสีเข้ม หูแหลม หางโค้งงอติดอยู่ด้านบนของหลังสุนัขหรือมีรูปทรงคล้ายรูปเคียว มีความสูงเฉลี่ยที่ประมาณ 52 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 20 – 30 กิโลกรัม มีขน 2 ชั้น ขนชั้นในหนาแน่นและนุ่ม ขนชั้นนอกกระด้างและตรง ขนมีหลายสี เช่น สีขาว,สีดำ, สีแดง, สีดำกับสีแทน, สีเมล็ดงา สายพันธุ์นี้ถือว่าหาได้ยากมาก และในญี่ปุ่นมีอยู่เพียงประมาณ 10,000-12,000 ตัวเท่านั้น
พฤติกรรมและนิสัยของชิบะ
ชิบะอินุแต่ละตัว แต่ละสายพันธุ์จะมีพฤติกรรมและนิสัยที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
ชิบะอินุ
เป็นสุนัขที่ร่าเริงแจ่มใส คล่องแคล่ว ปราดเปรียว ว่องไว ขี้เล่น ฉลาด รักอิสระซื่อสัตย์ กล้าหาญ ใจดี อ่อนโยน รักและผูกพันกับสมาชิกในครอบครัวมาก ๆ และเป็นมิตรที่ดีกับเด็ก ๆ ในบรรดา 6 สายพันธุ์ ชิบะอินุเป็นสายพันธุ์ที่ชอบเข้าสังคมมากที่สุดแต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก
ชิบะจะเป็นสุนัขฉลาด แต่ก็แอบดื้อนิด ๆ และเอาแต่ใจหน่อย ๆ ไม่ค่อยมาหาเวลาเรียก แต่จะมาหาเมื่ออยากมา ฉะนั้นการฝึกจึงไม่เหมือนสุนัขพันธุ์อื่น แต่ทั้งนี้นิสัยของสุนัขชิบะ ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์และการเลี้ยงดู ดังนั้นถ้าหากเจ้าของอยากให้เขาน่ารัก เข้าสังคมได้ ก็ต้องพยายามฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ นั่นเอง
อาคิตะอินุ
เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ค่อนข้างรักสันโดษ และไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นไม่ว่าจะกับเจ้าของ คนแปลกหน้า หรือสัตว์เลี้ยงด้วยกันเอง สุนัขพันธุ์นี้ไม่ค่อยเข้าใกล้คนแปลกหน้า จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนให้เข้าสังคมอย่างเพียงพอ เพื่อลดความก้าวร้าวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อพบคนแปลกหน้า นอกจากนี้อาคิตะยังเป็นสุนัขที่ฉลาด อดทน มีพลัง กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ โดยอุปนิสัยที่ถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสุนัขสายพันธุ์นี้ คือความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อเจ้าของ
ไคเค็นอินุ
ไคเค็นอินุมีนิสัยดุ ปราดเปรียว ว่องไวตามลักษณะนักล่า และค่อนข้างใจร้ายกับคนแปลกหน้า แต่ถ้าได้ทำความรู้จักจนสนิทสนม รับรองว่าไคเค็นจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่น่ารักไม่แพ้สัตว์ชนิดอื่น ๆ เลยค่ะ
คิชูอินุ
คิชูอินุเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่า มีนิสัยสงบ มีความอดทนสูง ซื่อสัตย์ และจริงใจต่อเจ้าของ ถ้าได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดีก็จะเป็นสุนัขทีดีมาก แต่ถ้าถูกเลี้ยงอย่างปล่อยปะละเลยละก็อาจกลายเป็นสุนัขที่มีนิสัยเกเร จนเป็นอันตรายต่อคนอื่นได้เหมือนกัน
ชิโคคุอินุ
ชิโคคุมีนิสัยห้าวหาญ เชื่อฟังเจ้าของ ไม่ดื้อเท่าชิบะและอาคิตะ ทำให้เลี้ยงง่าย คนญี่ปุ่นจึงนิยมเลี้ยงไว้เฝ้ายาม แต่หากมีโอกาสพาน้องออกไปเดินเล่นต้องคอยระวังเป็นพิเศษ เพราะน้องไม่ชอบคนแปลกหน้า แต่ถ้าเป็นเจ้าของหรือคนสนิท หมาพันธุ์นี้ถือว่าเป็นมิตรเป็นเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีมากไม่แพ้สุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ เลยล่ะค่ะ
ฮอกไกโดอินุ
ฮอกไกโดอินุ เป็นสุนัขที่ใครได้เจอก็ต้องตกหลุมรัก เพราะน้องเป็นสุนัขที่มีนิสัยเริงร่า ใจกล้า ไม่กลัวใคร อึด และที่สำคัญกินง่ายสุด ๆ
อาหารและโภชนาการของชิบะ
สุนัขชิบะ มีพื้นฐานมาจากสุนัขล่าสัตว์ ตั้งแต่สัตว์ขนาดเล็กไปจนถึงสัตว์ขนาดกลาง นก กระต่ายป่า หมูป่า หมีขนาดเล็ก เป็นต้น และเป็นสุนัขขนาดกลาง จึงต้องการสารอาหารที่เหมาะสม ดังนี้
โปรตีนและกรดอะมิโน
โปรตีนเป็นส่วนประกอบที่ควรมีในอาหารสุนัข โปรตีนทำหน้าที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย และยังช่วยให้ไม่เกิดตะคริวที่กล้ามเนื้อเท้าโดยการ สร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง โดยกรดอะมิโนจำเป็นเหล่านี้ยังช่วยซ่อมแซมร่างกายของสุนัขอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพผิวหนัง และเส้นขนอีกด้วย
โปรตีนที่ได้รับความนิยมนำมาให้สุนัขกินก็คือ โปรตีนจากเนื้อปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาแมกเคอเรล ปลาแฮริง ปลาเทราท์ และปลาซาร์ดีน ที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 , 6 ในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ไม่แห้ง กร้าน ลดอาการคัน และบำรุงให้ขนสวยเป็นเงางามอีกด้วยค่ะ
คาร์โบไฮเดรต
เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งคาร์โบไฮเดรตที่อยู่ในรูปของไฟเบอร์ที่มาจากผักและผลไม้ จะทำให้สุนัขมีพลังงานเต็มที่และช่วยทำให้อิ่มง่ายนั่นเอง หากทานคาร์โบไฮเดรตมากกว่าความต้องการของสุนัข จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน เป็นต้น เพราะฉะนั้นจึงควรระวังเรื่องปริมาณ โดยเฉพาะในสุนัขที่ไม่มีกิจกรรมมากนัก หรือสุนัขแก่ แต่ถ้าให้น้อยเกินไปก็อาจจะทำให้สุนัขขาดสารอาหารได้ค่ะ
ไขมันและกรดไขมัน
ไขมันและกรดไขมัน สามารถพบไขมันได้ใน เนื้อสัตว์ น้ำมันปลา นม เครื่องในสัตว์ และน้ำมันพืช ไขมันทำหน้าที่รักษาโครงสร้างของเซลล์ และช่วยให้เซลล์ทำงานปกติ อีกทั้งไขมันยังช่วยในการดูดซึมวิตามินของร่างกายอีกด้วย หากสุนัขได้รับไขมันมากเกินไปในอาหารจะทำให้เกิดปัญหากับหัวใจ และภาวะข้ออักเสบได้ แต่การขาดไขมันจะทำให้อาหารมีความน่ากินน้อยลง และอาจทำให้สุนัขมีปัญหาผิวหนังแห้ง และขนร่วง ไม่เงางาม เพราะฉะนั้นควรให้ไขมันในปริมาณที่เหมาะสมกับสุนัขตัวนั้น ๆ ค่ะ
วิตามิน
วิตามินเป็นสารอาหารที่สุนัขต้องการในปริมาณน้อยแต่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ถ้าเกิดการขาดวิตามินหรือได้รับไม่เพียงพอต่อความต้องการอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาได้
แร่ธาตุ
แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัข ทั้งร่างกาย จิตใจ การเจริญเติบโตของลูกสุนัข อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยของเอ็นไซม์ต่าง ๆ อีกด้วย การขาดแร่ธาตุอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ของสุนัขได้ ซึ่งปริมาณของความต้องการแร่ธาตุในแต่ละวันมีผลต่อสุนัขมาก เช่น การให้อาหารที่มีแคลเซียมน้อยไปอาจจะทำให้เกิดภาวะฮอร์โมนต่อมพาราไทรอยด์สูง และการที่ให้อาหารที่มีแคลเซียมมากเกินไปในลูกสุนัขที่กำลังเจริญเติมโตจะทำให้การเจริญเติมโตด้านโครงสร้างกระดูกมีปัญหาได้ เป็นต้น
การดูแลที่ “ชิบะอินุ” ต้องการเป็นพิเศษ
ออกกำลังกายทุกวัน
ชิบะจำเป็นต้องออกกำลังกายทุกวันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง แต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไป
แปรงฟันทุกวัน
ฟันเป็นอวัยวะที่ชิบะต้องใช้ในการกินอาหารทุกวัน การรักษาความสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรแปรงทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดคราบหินปูน และโรคปริทันต์ค่ะ
ทำความสะอาดใบหูทุกสัปดาห์
ควรใช้สำลีทำความสะอาดหูอยู่เป็นประจำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่องหูที่จะทำให้หูอักเสบ หรือเกิดการทำลายหูชั้นในของสุนัขได้
แปรงขนทุกวัน
ชิบะจะผลัดขน 2 ครั้งต่อปี การแปรงขนชิบะจะช่วยกำจัดขนที่หลุดร่วงและลดจำนวนขนที่จะกระจายไปทั่วบ้าน
ตัดเล็บเดือนละครั้ง
การตัดเล็บเราควรฝึกชิบะตั้งแต่ยังเด็กและตัดเป็นประจำทุกเดือน แต่ต้องระวังให้มาก เพราะเล็บเท้าของสุนัขมีหลอดเลือดอยู่ ถ้าหากตัดลึกมากเกินไป อาจจะทำให้สุนัขเจ็บและมีเลือดออก จนกลัวการตัดเล็บไปเลยก็ได้!
โรคที่ชิบะมีความเสี่ยงสูง
สุนัขแต่ละตัวจะมีโรคทางพันธุกรรม ชิบะเองก็เช่นกัน ชิบะเป็นสุนัขที่มีโรคทางพันธุกรรมติดตัวมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นโรคต้อหิน ต้อกระจก ประสาทตาเสีย สะโพกเสื่อม กระดูกสะบ้าเคลื่อน รวมทั้งเสี่ยงต่อโรคภูมิแพ้ มาดูกันดีกว่าอาการของโรคเหล่านี้มีอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้สังเกตและพาน้องชิบะของเราไปพบสัตวแพทย์ได้อย่างทันท่วงที!
โรคเกี่ยวกับตา
โรคทางตาเป็นโรคที่พบได้ในชิบะเยอะมาก ๆ เพราะเป็นโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคต้อหิน เป็นโรคที่เจ็บปวดอย่างมากซึ่งนำไปสู่การตาบอดได้หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการต่าง ๆ ที่เจ้าของสามารถสังเกตได้ คือ ตาเข น้ำตาไหล กระจกตาเปลี่ยนเป็นสีฟ้า และตาแดง
และโรคต้อกระจก เป็นสาเหตุของการตาบอดในชิบะที่มีอายุมาก เราจะต้องคอยดูว่าเลนส์ตาของสุนัขทึบมากขึ้นหรือเปล่า ถึงแม้ว่าสุนัขหลายตัวปรับตัวได้ดีเมื่อสูญเสียการมองเห็นและเข้ากันได้ดี การผ่าตัดเพื่อขจัดต้อกระจกและฟื้นฟูการมองเห็นอาจเป็นทางเลือกหนึ่ง
โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อ
ไม่ว่าจะเป็นสะโพกเสื่อมหรือกระดูกสะบ้าเคลื่อนก็ล้วนเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อทั้งนั้น โรคสะโพกเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในการพัฒนากระดูกข้อสะโพก ทำให้ข้อต่อมีรูปร่างและการเคลื่อนของข้อผิดปกติ กระดูกต้นขาไม่สามารถสวมเข้ากับเบ้าสะโพกได้พอดี นำไปสู่การอักเสบถาวร ซึ่งพบบ่อยในน้องสุนัขสายพันธ์ใหญ่ อาการของโรคสะโพกเสื่อม มีดังนี้ เริ่มทรงตัวได้ไม่ดีและยืนขาสั่น ร้องเจ็บเวลาลุกขึ้นนั่งหรือนอนบนพื้นได้ลำบาก เดินขาหลังปัดไปปัดมา เดินขึ้นลงบันไดไม่สะดวก นอกจากนี้การเลี้ยงน้องหมาบนพื้นลื่น อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้น้องหมาป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้นได้อีกด้วย
และโรคกระดูกสะบ้าเคลื่อน เป็นโรคที่พบได้บ่อยในสุนัขพันธุ์เล็ก อาการของโรคที่มักจะพบบ่อย ก็คือ ถ้าเจ้าของดึงขาน้องเบา ๆ แล้วมีเสียงดังกรึ๊บ ๆ มีการเดินขาถ่างขาโก่ง หรือน้องหมาแสดงออกว่ามีอาการเจ็บที่ขาชัดเจน ให้สงสัยก่อนเลยว่าเป็นอาการของโรคสะบ้าเคลื่อน และควรพาส่งสัตวแพทย์ให้เร็วที่สุด
โรคภูมิแพ้
โรคภูมิแพ้ในสุนัขส่วนใหญ่มักจะแสดงออกทางผิวหนัง เราเรียกอาการภูมิแพ้ผิวหนังนี้ว่า “atopy” โดยทั่วไปแล้วสุนัขที่เป็นโรคนี้จะมีอาการคันบริเวณเท้า ท้อง หู และรอยพับของผิวหนัง โดยอาการมักเริ่มในช่วงอายุหนึ่งถึงสามขวบ และอาจแย่ลงทุกปี การเลียอุ้งเท้า การถูหน้า และการติดเชื้อที่หูบ่อย ๆ เป็นอาการที่พบบ่อยมากที่สุด ถ้าน้องหมาของเรามีอาการเหล่านี้ให้รีบนำไปพบสัตวแพทย์ก่อนจะอาการหนักขึ้น!
ชิบะอินุเหมาะกับเจ้าของแบบไหน
ชิบะอินุถึงแม้ว่าจะดูเป็นมิตร เข้าถึงง่าย แต่จริง ๆ แล้วชิบะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างเลี้ยงและเอาแต่ใจได้ค่อนข้างยาก ดังนั้นสำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้ ควรมีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัขตัวอื่นมาก่อนจะดีมากกว่า และชิบะยังต้องออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง เพื่อปลดปล่อยพลังงานในร่างกายออกไป คนที่เลี้ยงจะต้องมีเวลาพาเจ้าตัวนี้ออกไปวิ่งเล่นอยู่เสมอ ๆ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรมีบริเวณบ้านให้เจ้าชิบะได้วิ่งเล่นเพื่อปลดปล่อยความเครียดด้วยกัน
คำถามที่พบบ่อย
Q: สุนัขสายพันธุ์ชิบะและอาคิตะแตกต่างกันอย่างไร?
A: ความแตกต่างของสุนัขสองสายพันธุ์นี้ค่อนข้างจะแยกได้ง่าย ชิบะจะมีขนาดตัวที่เล็กกว่าอาคิตะ ส่วนสูงเฉลี่ยของชิบะจะอยู่ที่ 35-40 เซนติเมตร และน้ำหนัก 7-11 กิโลกรัม ส่วนอาคิตะ ถือว่าเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ จะมีส่วนสูงอยู่ที่ 60-70 เซนติเมตร และมีน้ำหนักถึง 35-60 กิโลกรัมค่ะ
Q: ชิบะอินุเข้ากับแมวได้ดีไหม?
A: ชิบะอินุสามารถฝึกให้เข้ากับแมวได้ดีหากได้รับการแนะนำอย่างถูกต้องและตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ด้วยบุคลิกที่โดดเด่นและขนาดตัวของชิบะอาจจะทำให้แมวเกิดอาการวิตกกังวลได้
Q: ชิบะอินุเข้ากับเด็ก ๆ ได้ดีไหม?
A: ขึ้นอยู่กับเด็กแต่ละคน และนิสัยของชิบะแต่ละตัว ชิบะอินุส่วนใหญ่มีความอดทนสูง สามารถทนเด็กที่มีนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่น่ารักได้ แต่ชิบะอินุบางตัวก็มีความอดทนต่ำ อาจจะทำให้เป็นอันตรายได้
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ? ได้ทำความรู้จักชิบะอินุกันไปแล้ว ทุกคนยังอยากจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้อยู่ไหมน้า แต่ถ้ายังเลือกไม่ได้ว่าเลี้ยงสายพันธุ์อะไรดี มาศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย! ไว้มาทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์อื่น ๆ กันในบทความหน้านะคะ!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- ชิบะ อินุ (Shiba Inu) ลักษณะสายพันธุ์และนิสัย
- The History of the Shiba Inu Breed in Japan
- 6 พันธุ์หมาน่าเลี้ยง สำหรับคนรักหมาญี่ปุ่น
- Shiba Inu Health and Nutrition
- The Shiba Inu Care Guide: Personality, History, Food, and More
AUTHOR: MEW
2023, JAN 09