หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าประเทศไทยก็มีแมวที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์กันมาอย่างยาวนาน บางสายพันธุ์ก็ถูกเข้าใจผิดว่ามาจากต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าแมวจากไทยนั้นมีสายพันธุ์อะไรบ้าง จะน่ารักขนาดไหน PetPlease มีคำตอบให้ครับ !
บทความวันนี้ขอนำเสนอ
- แมววิเชียรมาศ
- แมวสีสวาด
- แมวศุภลักษณ์
- แมวโกนจา
- แมวขาวมณี
แมววิเชียรมาศ
เรามาเริ่มกันที่แมวสายพันธุ์แรกกับแมววิเชียรมาศ หรือที่ต่างประเทศจะเรียกว่า Siamese Cat เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าทำไมพวกเขาจึงกลายเป็นที่นิยม
ประวัติแมววิเชียรมาศ
จากบันทึกในสมุดข่อยที่ถูกค้นพบโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ พุทธสรมหาเถระ เจ้าอาวาสวัดอนงครามได้มีการกล่าวว่าแมววิเชียรมาศ มีอีกชื่อคือ แมวแก้ว ซึ่งเป็วแมวไทยโบราณที่ได้รับความนิยมเลี้ยงสูงในช่วงสมัยอยุธยา เนื่องจากมีความเชื่อว่าแมววิเชียรมาศจะนำพาโชคลาภเข้าบ้าน เลี้ยงไว้ก็มีแต่ความร่ำรวย ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งโชคดีเลยก็ว่าได้ครับ แต่น่าเสียดายที่ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปไม่สามารถเลี้ยงแมววิเชียรมาศได้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะราคาที่สูง ชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ
หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่าในครั้งที่สอง ทั้งเงินตรา ชิ้นส่วนประวัติศาสตร์ และแมววิเชียรมาศก็ถูกนำออกไปจากประเทศไทย และจากบันทึกของสมุดข่อยนี้เองทำให้มีการนำแมววิเชียรมาศกลับมายังประเทศไทย และกลายเป็นสัญลักษณ์นำโชคของกีฬาซีเกมส์ ในปี พ.ศ. 2528 ที่กรุงเทพมหานคร และในปีพ.ศ.2538 ที่เชียงใหม่ เรียกได้ว่ากลับมากลายเป็นที่นิยมอีกครั้งเลยทีเดียวครับ
ลักษณะของแมววิเชียรมาศ
แมววิเชียรมาศมีดวงตาสีฟ้าประกายสวยงาม ดั่งเช่นสีของน้ำทะเล โทนของสีขนตามลำตัวนั้นจะมีสีขาวล้วนไล่ระดับกับสีน้ำตาลอ่อน บริเวณหน้า หู ขา และหางจะมีแต้มสีเข้ม ๆ ที่เรียกว่าแต้มสีครั่ง ภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Seal Point ถือว่าเป็นจุดเด่นของแมวสายพันธุ์นี้เลยครับ ลักษณะหางของพวกเขาจะยาว เพรียว มีปลายที่แหลม ไม่ทู่ เรียกได้ว่ามีสมมาตรพอดีกับขนาดตัว ทำให้แมวสายพันธุ์นี้ดูสง่างามมิใช่น้อยเลยครับ
แมวสีสวาด
แมวสีสวาด มีประวัติการถูกค้บพบที่จังหวัดนครราชสีมา ที่อำเภอพิมาย โดยแมวสีสวาดมีหลายชื่อเรียกด้วยกัน เช่น แมวดอกเลา แมวมาเลศ โดยชื่อที่เราจะได้ยินกันมากที่สุดจะเป็น แมวโคราช ที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งหลักเกณฑ์การตั้งชื่อใหม่นั้นก็ง่าย ๆ คือ ถิ่นกำเนิดของพวกเขานั่นเองครับ
ประวัติแมวสีสวาด
อ้างอิงจากสมุดข่อย บันทึกโบราณที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่าแมวโคราชเคยถูกนำตัวไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อเพาะพันธุ์ โดยแมวโคราชตัวแรกที่ไปเยือนประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รัฐออริกอน จนในปีพ.ศ.2509 เดือนมีนาคม ได้มีการจัดประกวดแมวประจำปี และผู้ชนะในปีนั้นก็คือแมวโคราช ทำให้สร้างเกียรติศักดิ์ และชื่อเสียงให้คนต่างชาติรู้จักนับแต่นั้นเป็นต้นมา หลังจากนั้นในปีพ.ศ. 2550 แมวโคราชได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงโชคลาภในการแข่งขันซีเกมส์ที่ถูกจัดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา ครั้งเมื่อตอนที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ ไม่จบเพียงเท่านี้ยังถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ให้กับสโมรสรชื่อดังในจังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย
ลักษณะของแมวสีสวาด
กะโหลกของแมวสีสวาทจะมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจ แมวสีสวาทเพศผู้จะมีรอยหยักที่หน้ามาก ทำให้เราสามารถมองเห็นเป็นรูปหัวใจได้ง่ายกว่าเพศเมียครับ โดยจะมีขนาดของหน้าผากที่แบน ใหญ่ รวมถึงใบหูที่มีความมนที่ตรงปลาย แต่มีขนาดของโคนหูที่ใหญ่ และตั้งตรง สีของแมวสีสวาด หรือแมวโคราชนั้นก็ตามแหล่งที่มาของชื่อเลย พวกเขามีสีเหมือนกับสีเมล็ดสวาดที่มีลักษณะคล้ายสีของก้อนเมฆ จมูก และริมฝีปากของแมวสายพันธุ์นี้จะมีสีน้ำเงิน หรืออาจจะเป็นม่วงอ่อน ๆ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละตัว ดวงตาของแมวสีสวาทจะเป็นสีเหลืองอมเขียว ซึ่งมีสีคล้าย ๆ กับรวงข้าว จึงถูกคัดเลือกให้เป็นแมวที่ใใช้สำหรับพิธีแห่นางแมวนั่นเอง
แมวศุภลักษณ์
ต่อกันที่แมวศุภลักษณ์ แมวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นนักสำรวจ พวกเขาชื่นชอบที่จะใช้พลังงานของตัวเองในการผจญภัยธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนี้ จึงทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวคนแปลกหน้า ทำให้หลายคนอาจตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย
ประวัติแมวศุภลักษณ์
แมวศุภลักษณ์มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดข่อยโบราณเช่นเดียวกัน โดยถูกกล่าวไว้ว่าแมวศุภลักษณ์มีชื่อเรียกอีกหนึ่งชื่อว่า แมวทองแดง มีความเป็นไปได้ว่าแมวศุภลักษณ์ตัวสุดท้ายในไทยอาจติดตามเจ้าของที่ถูกเกณฑ์ไปเป็นเชลยศึกที่ประเทศพม่า เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่ 2 ภายหลังได้มีชาวอเมริกันที่มีนามว่า โจเซฟ ทอมสัน นำไปเพาะพันธุ์ต่อจนได้รับการยอมรับ และถูกจัดทะเบียนที่ประเทศอังกฤษในที่สุด ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแมวศุภลักษณ์ของไทยเรานั่นเองครับ
ลักษณะของแมวศุภลักษณ์
แมวศุภลักษณ์ มีอีกชื่อว่าแมวทองแดง แน่นอนว่าจะต้องมีจากลักษณะเฉพาะตัวของพวกเขาอย่างแน่นอน พวกเขามีสีน้ำตาลเข้มทั่วบริเวณลำตัวตั้งแต่หัวจรดหาง รวมถึงตาที่มีสีเหลืองประกาย หนวดของพวกเขามีลักษณะคล้าย ๆ กับลวดทองแดงที่เราเห็นกันทั่ว ๆ ไป บริเวณใบหน้า ปลายขา หาง และหูมีสีน้ำตาลเข้มมากกว่าลำตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้แมวศุภลักษณ์มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนแมวตัวไหน ไม่ว่าใครจะต้องต่างตกหลุมรักพวกเขาอย่างแน่นอนครับ
แมวโกนจา
มาถึงแมวโกนจา แมวดำหนึ่งเดียวที่มีการกล่าวถึงในสมุดข่อยของไทย เป็นแมวโบราณที่มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัญลักษณ์ของผี และปีศาจอยู่เสมอ แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาเป็นแมวที่ให้โชคกับคนไทยไม่แพ้แมวสายพันธุ์ไทยอื่น ๆ เลยครับ
ประวัติแมวโกนจา
บันทึกจากสมุดข่อยกล่าวไว้ว่า แมวโกนจา เป็นหนึ่งในแมวที่เลี้ยงไว้เผื่อความสิริมงคลให้กับผู้เลี้ยง หากผู้ใดมีไว้ครอบครองจะทำให้มีสมบัติ และมรดกที่ส่งต่อให้กับลูกหลานอย่างมากมาย สามารถส่งเสริมบารมีในเรื่องหน้าที่การงานให้กับเราได้มากยิ่งขึ้น หากคิดจะทำอะไรก็สามารถบรรลุได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ บ้างก็เรียกแมวโกนจาว่า ดำมงลคล สิ่งเหล่านี้เป็นเหตุให้แมวโกนจาเป็นแมวที่รับความนิยมสูงในอดีตนั่นเองครับ
ลักษณะของแมวโกนจา
เนื่องจากลักษณะของสีขนที่มีสีดำล้วน ทำให้หลายคนต่างก็คิดว่าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคร้าย แต่จริงๆ แล้วสีดำไม่ได้แสดงถึงความโชคร้ายอย่างไร เพราะในอดีตต่างก็ชื่นชมกับสีดำล้วนของแมวโกนจา พวกเขามีลักษณะคล้ายกับแมวต่างชาติ ซึ่งก็คือ บอมเบย์ มีหลายจุดที่ทำให้หลายคนสับสนอยู่เสมอ แต่จริง ๆ แล้วนั้นพวกเขามีสิ่งที่แตกต่างกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขนที่สั้นเสมอกันทั้งลำตัว แต่ละเอียด และนุ่มไม่ต่างจากแมวขนยาว หัวของพวกเขาจะกลมมน ขนาดเล็กรับกับส่วนของลำคออย่างสมมาตร ทำให้ดูสง่างาม แมวโกนจามีปากที่เรียว และแหลม รวมถึงหูที่ตั้งอยู่เสมอ หากเราลองมองเข้าไปที่นัยน์ตาของพวกเขาจะพบว่า แมวโกนจามีดวงตาที่เป็นสีทองอ่อน หรือไม่ก็เป็นสีเหลืองอมเขียว หางของพวกเขาเป็นทรงยาว เพรียว และอุ้งเท้าเหมือนกับสิงโต ลักษณะที่สง่างามเช่นนี้ทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างคล่องแคล่ว และสง่างาม ถือว่าเป็นจุดเด่นของแมวโกนจาเลยก็ว่าได้ครับ
แมวขาวมณี
สุดท้ายกับแมวขาวมณี แมวที่มีความสง่างามไม่เหมือนใคร เรามาดูกันดีกว่าพวกเขามีลักษณะเด่นอย่างไรที่ทำให้หลายคนต่างสนใจ และอยากเลี้ยงพวกเขากันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ประวัติแมวขาวมณี
แน่นอนว่าแมวขาวมณีมีรายชื่ออยู่ในสมุดข่อย บันทึกของไทยแต่โบราณกล่าวว่าแมวขาวมณีกำเนิดขึ้นในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นหนึ่งในแมวที่นำโชคของไทย ไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะแมวขาวมณียังมีในภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดรอบ ๆ เขตธนบุรี โดยเราสามารถเข้าไปชมได้นะครับ ไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าแมวขาวมณีนั้นอยู่คู่กับประเทศไทยเรามาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พวกเขามีลักษณะนิสัยที่เชื่อง เชื่อฟังคำสั่ง จึงทำให้คนในอดีตชอบที่จะเลี้ยงพวกเขาเอาไว้ในบ้าน ไม่เพียงแค่เลี้ยงไว้เพราะโชคลาภเท่านั้น
ลักษณะของแมวขาวมณี
สำหรับลักษณะของแมวขาวมณีที่เป็นจุดเด่นนั้นคงหนีไม่พ้นดวงตา พวกเขามีดวงตาสองสี คือ สีฟ้า และสีเหลือง ซึ่งเราสามารถพบเห็นดวงตาทั้งสองสีในแต่ละข้างของแมวขาวมณี ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ของพวกเขาเอง แมวขาวมณีมีสีขาวล้วนไปทั้งตัว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเลยครับ โดยขนของพวกเขาจะนุ่ม ไม่แข็งกระด้าน ในส่วนของหน้าผากจะมีลักษณะคล้ายกับรูปหัวใจ ใหญ่ และแบน
เป็นอย่างไรกันบ้างครับทุกคนกับข้อมูลของแมวไทยโบราณที่ทาง PetPlease ได้รวบรวมมาให้ในวันนี้ หวังว่าทุกคนจะได้รับทั้งประโยชน์ และความบันเทิงกันอย่างถ้วนหน้านะครับ สำหรับแมวไทยโบราณนั้นก็มีเอกลักษณ์ และความน่ารักเฉพาะตัว จนทำให้หลาย ๆ ชาติต่างชื่นชม ดังนั้นเราคนไทยจำเป็นต้องหวงแหน และสนับสนุนให้แมวเหล่านี้ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกันนะครับ สำหรับใครที่กำลังหาความรู้เกี่ยวกับสัตว์โลกน่ารักชนิดอื่น ๆ ก็สามารถอ่านได้บนเว็บไซต์ของ PetPlease ได้เลยนะครับ!
คำถามที่พบบ่อย
Q: ทำไมถึงนิยมใช้แมวสีสวาดในพิธีแห่นางแมว (พิธีขอฝน) ?
A: เพราะว่าแมวสีสวาดนั้นมีขนคล้ายกับสีของเมฆฝน ซึ่งถือว่าเป็นแมวนำโชคของชาวอีสาน
Q: แมวสามสีเป็นแมวสายพันธุ์ไทยหรือไม่ ?
A: แมวสามสีเป็นแมวลูกผสม ซึ่งไม่ถูดจัดอยู่ในแมวไทยพันธุ์แท้
Q: มีแมวสายพันธุ์ไทยอีกบ้างที่ไปประกวดต่างประเทศ นอกจากแมววิเชียรมาศ ?
A: นอกจากแมววิเชียรมาศนั้นยังมีแมวสีสวาท โดยทำการประกวดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีพ.ศ.2503 ซึ่งได้รับรางวังชนะเลิศอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- 45 ปัญหาคาใจคำถามกับแมวไทย
- ‘แมว’ มงคลโบราณ 5 สายพันธุ์ไทยแท้
- 6 แมวไทย เลี้ยงแล้วนำโชค เพิ่มความปัง ความเฮง
- ๕ แมวไทยโบราณที่ยังคงอยู่ จากแมวให้คุณทั้งสิ้น ๑๗ สายพันธุ์
- ทำความรู้จักแมวไทย ที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบัน
AUTHOR: Arthurchiii
2023, FEB 25