ชามและที่ให้อาหาร

ชามอาหารเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญในการเลี้ยงแมว เนื่องจากการกินเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สัตว์โลกขาดไม่ได้ ดังนั้นภาชนะใส่อาหารก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และจำเป็นต้องเหมาะกับลักษณะเฉพาะของแมวเพื่อให้เกิดการใช้งานอย่างสะดวกที่สุด

วันนี้ PetPlease ได้รวบรวมเรื่องที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับชามอาหารแมวมาให้ทุกคนแล้ว มีอะไรที่เราควรรู้บ้าง มาอ่านกันดีกว่า!

1.ชนิดของชามอาหารแมว

• ชามอาหารแมวแบบทั่วไป
  ชามอาหารแมวแบบทั่วไป เป็นสิ่งแรกที่ทาสแมวมือใหม่เลือกซื้อให้น้องแมว เพราะหาซื้อง่าย และราคาถูก แถมยังมีรูปทรงที่หลากหลาย น่ารักน่าใช้มาก ๆ อีกด้วย
• เครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติ
  เครื่องให้อาหารอัตโนมัติกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีหลายบ้านที่ไม่ได้มีเวลามาดูแลน้องแมวมากมาย การเลือกใช้เครื่องให้อาหารแมวอัตโนมัติก็ค่อนข้างตอบโจทย์คนที่ไม่มีเวลาค่ะ ซึ่งเครื่องจ่ายอาหารประเภทนี้สามารถตั้งเวลาและกำหนดสัดส่วนอาหารที่จะให้แมวได้ และสำหรับบางบ้างที่เลี้ยงแมวหลายตัว อาจจะให้แมวใส่ชิปที่เชื่อมกับเครื่องให้อาหารในปลอกคอ เพื่อแบ่งสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมให้กับแมวแต่ละตัวนั่นเองค่ะ
• ชามอาหารแมวแบบยกสูง
  ชามอาหารแบบยกสูง เป็นชามที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสรีระทางกายภาพของน้องแมว เหมาะสำหรับน้องแมวที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว และป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้ แต่ไม่ควรซื้อชามที่ยกสูงจนเกินไปเช่นกัน
• ชามอาหารแมวแบบป้อนช้า
  แมวบางตัวมีอาการเครียดเวลากินอาหาร เนื่องจากกลัวโดนแย่งอาหาร ทำให้น้องแมวต้องกินอาหารให้ไวขึ้น จนทำให้อาเจียนออกมาเมื่อกินเสร็จ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาน้องแมวกินไว คือ การซื้อชามอาหารแมวแบบป้อนช้า เพื่อให้น้องแมวกินอาหารช้าลงนั่นเองค่ะ

2.วิธีการเลือกซื้อชามอาหารแมว
การเลือกชามอาหารให้น้องแมวเราจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและปลอดภัยต่อตัวของน้องแมว ซึ่งวิธีการเลือกซื้อชามอาหารแมว มีดังนี้

• เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ
  วัสดุของชามอาหารก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เจ้าของอย่างเราต้องใส่ใจ ไม่แพ้กับอาหารที่น้องทานเข้าไปเลยค่ะ เราควรเลือกชามอาหารที่ใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น
          – สแตนเลส: ชามอาหารแมวที่ผลิตจากสแตนเลส จะมีความแข็งแรงและทนทาน นอกจากนี้ยังป้องกันแบคทีเรียที่อาจเติบโตในชามอาหาร รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ทำได้ง่ายและแห้งได้ค่อนข้างเร็ว ทำให้ใช้งานได้ค่อนข้างนานเลยค่ะ
  – เซรามิก / สโตนแวร์ / แก้ว: สำหรับชามอาหารน้องแมวที่ผลิตจากเซรามิก สโตนแวร์หรือแก้ว วัสดุเหล่านี้จะมีคุณสมบัติคล้ายกับแสตนเลส ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันแบคทีเรียเจริญเติบโต รวมไปถึงความแข็งแรงอีกด้วย และยังมีข้อดีในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น การดีไซน์ เพราะมีสีชามอาหารให้เลือกเยอะ
• เลือกจากความลึกของชาม
  ความลึกของชามข้ามแมวมีผลต่อการรับประทานอาหารของน้องแน่นอนค่ะ เพราะหากชามที่ขนาดที่ลึกเกินไป มันจะทำให้แมวรู้สึกประหม่า เพราะไม่สามารถเห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างได้ในระหว่างการกิน นอกจากนี้หากชามอาหารเล็กเกินไปจนไปเบียดกับหนวด มันก็อาจทำให้แมวรู้สึกอึดอัดได้เช่นกัน
• เลือกจากขนาดและรูปทรง
  ขนาดและรูปทรงของชามใส่อาหารควรที่จะใหญ่พอกับความต้องการอาหารของน้องแมว
• เลือกให้เหมาะกับสายพันธุ์ของแมว
  หลายคนอาจคิดว่าชามอาหารของน้องแมวเหมาะกับทุกสายพันธุ์แต่จริง ๆ แล้ว แมวในแต่ละสายพันธุ์จะมีรูปร่างของใบหน้าที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นขนาดและรูปทรงของอาหาร ควรจะพอดีกับในหน้าของน้องแมวด้วยค่ะ
• ทนทานต่อรอยขีดข่วน
  บางครั้งด้วยความหิวของน้องแมว ทำให้มีพฤติกรรมรุนแรงเวลากินไปบ้าง ดังนั้นเราควรเลือกชามอาหารที่ทนต่อแรงขีดข่วนได้ เพื่อที่จะได้ใช้งานได้อย่างยาวนานมากขึ้น
• สามารถใส่อาหารได้หลากหลายประเภท
  เนื่องจากอาหารแมวค่อนข้างมีหลากหลายประเภท ดังนั้นชามอาหารที่เราเลือกซื้อควรใส่ได้ทั้งอาหารแห้งและอาหารเปียก

3.วิธีการทำความสะอาดชามอาหารแมว
หลังจากน้องแมวของเรากินอาหารเสร็จแล้ว เราต้องทำความสะอาดชามอาหารแมวด้วย เพื่อความสะอาดและป้องการเกิดเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ ที่จะทำให้น้องแมวป่วยได้ ซึ่งวิธีความสะอาด มีดังนี้

• ล้างด้วยมือ
  การล้างชามอาหารแมวด้วยมือ ก็คล้ายกับการล้างจานทั่วไปของคนเราเลยค่ะ ให้ใช้น้ำหรือน้ำอุ่นมาราดให้ทั่วชาม หลังจากนั้นให้นำน้ำยาล้างจานและฟองน้ำมาขัดให้สะอาดทุกซอกทุกมุม แล้วจึงล้างด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นอีกครั้ง จากนั้นตั้งหรือเช็ดให้แห้งก็เพียงพอแล้วค่ะ
• ล้างด้วยเครื่องล้างจาน
  การล้างชามอาหารแมวด้วยเครื่องล้างจาน ก็สามารถล้างแบบปกติรวมกับจานอาหารของเราได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นต้องล้างแยกกัน
• เก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสง
  หลังจากชามอาหารแห้งดีแล้ว ให้นำไปเก็บไว้ในที่ที่ไม่โดนแสง เพื่อป้องกันชามอาหารแมวไม่ให้ได้รับความเสียหายจากแสงแดดนั่นเองค่ะ

4.คำถามที่พบบ่อย
Q: ชามอาหารที่ผลิตจากพลาสติก อันตรายต่อแมวหรือไม่ ?
A: ชามอาหารที่ผลิตจากพลาสติกมีความอันตรายและเสี่ยงต่อแมว เนื่องจากพลาสติกสามารถแตกหักได้ง่าย หากแมวกลินพลาสติกเข้าไปอาจส่งผลให้ระบบลำไส้มีปัญหา พลาสติกอาจเข้าไปขวางระบบทางเดินอาหารในลำไส้ ทำให้ต้องรับการผ่าตัดจากสัตวแพทย์