No products in the cart.

แชมพูและคอนดิชันเนอร์

แบรนด์
Select some options
Stores
More
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
แบรนด์
Stores
เพิ่มเติม
ราคา
Price (Filter) - slider
Price (Filter) - inputs
THB
THB
32 of 50 Results
Sort by
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่
เลือกรูปแบบ This product has multiple variants. The options may be chosen on the product page
ใหม่

แชมพูสุนัข

แชมพูสุนัข คือ อุปกรณ์ทำความสะอาดสุนัข ไม่ใช่แค่เพื่อให้สุนัขสะอาด หรือมีกลิ่นตัวหอมเพียงเท่านั้น แต่การใช้แชมพูยังช่วยบำรุงผิวหนังและขนอีกด้วย ทั้งยังมีสูตรที่ดูแลเฉพาะเรื่องที่มีปัญหาอีกด้วย แล้วจะเลือกยี่ห้อไหนดี?

วันนี้ PetPlease ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับแชมพูสุนัขที่ทุกคนควรรู้ มาแบ่งปัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ค่ะ

 

1.ประเภทของแชมพูสุนัข
แชมพูสุนัขในปัจจุบัน มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งประเภทของแชมพูสุนัข สามารถเลือกซื้อได้ตามประเภทข้างล่างนี้ คือ

  • แชมพูสำหรับผิวแพ้ง่าย
    แชมพูสำหรับผิวแพ้ง่าย เป็นแชมพูที่อ่อนใสไม่มีกลิ่น และสี ซึ่งค่า pH ของแชมพูชนิดนี้ควรอยู่ที่ 6.5 – 7.5 โดยส่วนใหญ่แชมพูชนิดนี้จะทำมาจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น ข้าวโอ๊ต น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น แชมพูสำหรับผิวแพ้จะเหมาะสำหรับน้องหมาที่มีผิวหนังบอบบาง เช่น พิทบูล เทอเรีย ค็อกเกอร์สเปเนียล เป็นต้น
  • แชมพูสำหรับรักษาโรคผิวหนัง
    แชมพูสำหรับรักษาโรคผิวหนัง เหมาะสำหรับน้องหมาที่มีปัญหาเรื่องโรคผิวหนัง ซึ่งน้องหมาที่เป็นโรคผิวหนังอาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือยีสต์ ภูมิแพ้ผิวหนัง เป็นต้น แชมพูในกลุ่มรักษาโรคผิวหนัง จะมีตัวยาที่แตกต่างกันไปขึ้นกับชนิดของโรคผิวหนังที่เป็น ตัวอย่างเช่น โรคผิวหนังอักเสบที่จากเกิดเชื้อ Seborrheic ในแชมพูควรจะมีส่วนผสมของสาร Antiseborrheic หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิว และยังช่วยปรับสภาพความเป็นกรดด่างบนผิวหนัง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นต้น
  • แชมพูดูแลเส้นขน
    สำหรับสุนัขที่มีขนยาว ไม่ว่าจะเป็นมอลทีส อัฟกัน ฮาวน์ หรือสุนัขที่เจ้าของอยากให้มีน้องหมาขนที่สวย และเงางาม การเลือกใช้แชมพูดูแลเส้นขนโดยเฉพาะ ก็จะช่วยให้สุนัขมีขนที่เงางาม ดูสุขภาพดีมากขึ้นค่ะ และในแชมพูบางยี่ห้อ ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นขนอีกด้วย
  • แชมพูสำหรับลูกสุนัข
    เพราะว่าลูกสุนัขจะมีผิวที่บอบบางมากกว่าปกติ จึงจำเป็นต้องใช้แชมพูสูตรเฉพาะสำหรับลูกสุนัขเท่านั้น
  • แชมพูแห้ง
    แชมพูแห้ง เหมาะสำหรับน้องหมาที่ไม่ค่อยชอบอาบน้ำ ใช้ง่าย ไม่ต้องเปียกน้ำ และยังสามารถทำความสะอาดเฉพาะจุดได้อีกด้วย
  • คอนดิชันเนอร์​
    คอนดิชันเนอร์หรือครีมนวด แชมพูประเภทนี้เป็นตัวช่วยในการบำรุงผิว และขนของสัตว์เลี้ยง ช่วยให้ขนนุ่มเงางาม และเพิ่มความแข็งแรงของผิวหนังและเส้นขนให้มากขึ้น แถมยังเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหนังอีกด้วย นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีแชมพูที่ผสมคอนดิชันเนอร์หลายยี่ห้อ เพื่อจะได้สะดวกต่อผู้บริโภคอีกด้วย

 

2.การเลือกซื้อแชมพูสุนัข
หลังจากได้รู้ประเภทของแชมพูสุนัขกันไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่าการเลือกซื้อแชมพูสุนัข เลือกยังไงถึงจะดี?

  • เลือกจากช่วงวัยของสุนัข
    การเลือกแชมพู เราควรเลือกจากช่วงวัยของสุนัขด้วย ถ้าเป็นลูกสุนัขให้เลือกแชมพูที่มีค่า pH ต่ำ โดยดูจากฉลาก หรือสังเกตผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า No More Tear ก็ได้ ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดอาการระคายเคืองแก่สุนัข หากแชมพูเข้าตาสุนัขเวลาอาบน้ำ
  • เลือกจากความหนาของขน
    สำหรับสุนัขขนบาง: มีขนชั้นเดียว และบางตัวสามารถมองทะลุเห็นชั้นผิวหนัง เช่น ชิวาว่า และบาเซนจิ น้องค่อนข้างไวต่ออากาศร้อนและเย็น ฉะนั้นควรเลือกแชมพูสูตรสำหรับสุนัขขนบาง ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังและขน สามารถขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ดี
    สำหรับสุนัขขนหนาปานกลาง: สามารถใช้แชมพูสุนัขทั่วไปได้ สุนัขขนหนาปานกลาง ได้แก่ พุดเดิ้ล ร็อตไวเลอร์ เป็นต้น
    สุนัขที่มีขนหนาถึงสองชั้น หนา และแน่น: แชมพูที่เหมาะสมต้องสามารถซึมซาบเข้าสู่ขนทุกชั้นได้อย่างทั่วถึง แต่ยังคงล้างออกง่าย และมีส่วนผสมของสารกำจัดเห็บหมัด
  • เลือกจากสภาพผิวหนังของสุนัข
    สำหรับสุนัขที่มีปัญหาเรื่องผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง, มีอาการคัน, หรือลอกเป็นขุย ให้ชแชมพูที่ให้ความชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงแชมพูที่ใส่น้ำหอมเพราะสารเคมีจะยิ่งทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรเลือกใช้แชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น ข้าวโอ๊ต, น้ำผึ้ง และวิตามินอี ถ้าหากสภาพผิวหนังน้องมางยังไม่ดีขึ้น หรือมีอาการแย่ลง ควรไปปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อขอแชมพูแบบผสมยาหรือรับการรักษาเพิ่มเติม

 

3.วิธีอาบน้ำสุนัข
การอาบน้ำสุนัขเป็นเรื่องที่ยากแต่ไ่มเท่าการอาบน้ำให้น้องแมว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบน้ำ แต่เราก็ต้องเรียนรู้การอาบน้ำที่ถูกวิธี เพราะถ้าหากอาบน้ำให้ผิดวิธี อาจจะทำให้ขนของสุนัขไม่สะอาดและผิวหนังเกิดการระคายเคืองได้ วิธีอาบน้ำให้สุนัขที่ถูกต้อง มีดังนี้

  • อุดหูน้องหมา
    ก่อนเริ่มอาบน้ำ ให้นำสำลีอุดของน้องหมา เพื่อกันน้ำไหลเข้าไปในหู เพราะอาจจะทำให้เกิดการอับเสบและติดเชื้อภายในหูได้
  • ฉีดน้ำไล่จากท่อนล่าง โดยค่อยๆ ไล่จากขา ลำตัวและหน้าตามลำดับ
    ให้ใช้ฝักบัวฉีดตามผิวหนังในบริเวณต่าง ๆ โดยไล่จากขึ้นไปที่ลำตัว และหน้า และต้องระวังอย่าให้น้ำเข้าหู ตา และจมูกของน้องหมา
  • ฟอกแชมพู
    เมื่อฉีดน้ำเสร็จแล้วให้ฟอกแชมพูลงไปบนตัวของสุนัข โดยให้ถูลงบนตัวของสุนัขในลักษณะย้อนขน ทำให้ทั่วทั้งตัว โดยเฉพาะตามซอกนิ้วเท้าและใต้หาง ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีสิ่งสกปรกสะสมอยู่มากกว่าส่วนอื่น ขณะฟอกแชมพู เราอาจจะนวดตัวน้องหมาไปด้วยก็ได้ น้องหมาจะได้รู้สึกผ่อนคลาย และทำให้เลือดไหลเวียนดี แถมยังช่วยลดการหลุดร่วงของขนได้อีกด้วย
  • ล้างฟองแชมพูออก
    หลังจากนั้นให้ล้างแชมพูออก โดยใช้การฉีดน้ำเบา ๆ ตามผิวหนัง โดยเริ่มต้นจาก ลำตัว ขา และหางตามลำดับ จนฟองแชมพูออกหมด ส่วนใบหน้าควรใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเช็ดอย่างระมัดระวัง อย่าให้น้ำเข้าหู ตา จมูกสุนัขเด็ดขาด และเมื่อล้างแชมพูเสร็จแล้ว ให้นำสำลีที่อุดออก
  • เช็ดตัวและเป่าขน
    เช็ดตัวสุนัขด้วยผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ นำผ้าขนหนูผืนใหญ่ห่อตัวสุนัขเพื่อให้ความอบอุ่น และใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดให้ทั่วตัว จากนั้นให้เป่าขนจนแห้งสนิท เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

ในการอาบน้ำให้น้องหมาทุกครั้ง ไม่ควรอาบเกิน 10 นาที เพื่อไม่ให้น้องหมารู้สึกเหนื่อยล้าเกินไปค่ะ

 

4.ข้อควรระวังในการอาบน้ำสุนัข
ถึงแม้สุนัขจะอาบน้ำได้ง่ายกว่าสุนัข แต่ก็มีข้อควรระวังในการอาบน้ำให้สุนัขเหมือนกันนะ ว่าแต่มีอะไรบ้างที่เราควรระวัง มาดูกัน!

  • ระหว่างอาบน้ำระวังอย่าให้น้ำหรือแชมพู เข้าหู ตา จมูก สุนัขเด็ดขาด
    ในการอาบน้ำ เราต้องระวังอย่าให้น้ำหรือชแมพูเข้าหู ตา จมูกของสุนัขเด็ดขาด โดยเฉพาะดวงตา เพราะจะทำให้เยื่อดวงตาสุนัขเกิดการอักเสบได้ค่ะ
  • ควรเลือกใช้แชมพูสำหรับสุนัขเท่านั้น
    นอกจากเราจะเลือกใช้ได้แค่แชมพูสำหรับสุนัขแล้ว เรายังต้องเลือกแชมพูให้เหมาะกับวัย และความยาวของขนสุนัขด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาด และแชมพูที่ดีที่สุดควรมีค่า pH ประมาณ 6.5 -7.5 เท่านั้น
  • ควรอาบน้ำต่อเนื่องกันจนกว่าจะเสร็จ
    หากในระหว่างการอาบน้ำ เรามีการหยุดพักอาจจะทำให้สุนัขเข้าใจว่าเราอาบน้ำให้เขาเสร็จแล้ว อาจจะทำให้เขาสลัดขน หรืออาจจะวิ่งหนีไปก่อนจะอาบน้ำเสร็จได้
  • ไม่ควรใช้เล็บเกาไปที่ผิวหนังของสุนัข
    ในระหว่างการอาบน้ำ เราไม่ควรใช้เล็บเกาไปที่ผิวหนังขนองน้องหมา เพราะจะทำให้เกิดแผล หรือการระคายเคืองจนอักเสบและติดเชื้อได้

 

5.คำถามที่พบบ่อย
Q: ใช้แชมพูคนกับน้องหมาได้ไหม?
A: ไม่ควรใช้แชมพูคนกับน้องหมาค่ะ เพราะลักษณะโครงสร้างผิวหนังของคนและสุนัขแตกต่างกัน และแชมพูที่ผลิตเพื่อคนอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิวสุนัขได้ และทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราง่ายขึ้น เนื่องจากผิวหนังขาดความสมดุลของความเป็นกรดเป็นด่าง

Q: ควรอาบน้ำสุนัขบ่อยแค่ไหน?
A: เราควรอาบน้ำสุนัขเดือนละ 1-2 ครั้งก็พอแล้ว เพราะการอาบน้ำบ่อย อาจจะทำให้สภาพผิวหนังและขนของน้องหมาเปลี่ยนแปลงไป หรือเกิดปัญหาผิวหนังและขนแห้งหยาบ กลิ่นเฉพาะตัวหายไป และไม่ควรเว้นการอาบน้ำห่างนานเกินไป เพราะไม่ดีต่อสุขอนามัยของสุนัข ทำให้ขนและผิวหนังของสุนัขเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ปรสิต และสิ่งสกปรกอื่น ๆ

 

Q: อาบน้ำสุนัขพันธุ์เล็กกับพันธุ์ใหญ่ต่างกันไหม?
A: การอาบน้ำสุนัขพันธุ์เล็กกับพันธุ์ใหญ่นั้นมีวิธีการไม่แตกต่างกัน แต่การควบคุมสุนัขระหว่างอาบน้ำ ถ้าสุนัขพันธุ์ใหญ่อาจจะลำบากกว่า หากมีการดื้อดึงขัดขืนในช่วงแร กๆ ที่ยังไม่ชินกับการอาบน้ำ ส่วนการพาไปอาบน้ำที่ร้านนั้นจะแตกต่างกันที่ราคาค่าบริการ โดยการคิดค่าบริการจะคิดจากน้ำหนักตัวของสุนัข ดังนั้นแน่นอนว่าสุนัขพันธุ์เล็กย่อมมีราคาค่าบริการที่ถูกกว่า

 

Q: ไม่อาบน้ำสุนัขได้ไหม?
A: ในกรณีที่เป็นสุนัขขนสั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ แต่สำหรับสุนัขขนยาวควรอาบน้ำให้น้องอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อป้องกันเห็บและหมัดที่จะมาเกาะติดตามขนของน้องหมาค่ะ