รถเข็นและกระเป๋า

สำหรับเจ้าของคนไหนที่เป็นสายเที่ยว หรือใครที่กำลังวางแผนจะพาน้องแมวไปนอกบ้าน เช่นพาไปฉีดวัคซีน ไปอาบน้ำ แต่ไม่รู้จะพาไปยังไงดี? อุปกรณ์ที่สำคัญสำหรับการพาน้องแมวออกไปนอกบ้าน ก็คือ “กระเป๋าใส่แมว”

ทุกวันนี้กระเป๋าใส่แมวมีวางขายตามท้องตลาดทั่วไปเยอะมาก แล้วเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะได้ของที่มีคุณภาพและปลอดภัย วันนี้ PetPlease ได้รวบรวมเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับกระเป๋าใ่สแมวมาไว้ที่นี่แล้ว แถมที่ PetPlease เองยังมีผลิตภัณฑ์กระเป๋าใส่แมวที่ดีและมีคุณภาพอีกด้วย ถ้าสนใจสั่งซื้อได้เลย!

1.ประเภทของกระเป๋าใส่แมว

• กระเป๋าแมวแบบเป้
  กระเป๋าแมวชนิดนี้ จะสามารถรองรับน้ำหนักแมวได้ดี และยังทำให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัยด้วย เนื่องจากรูปทรงและขนาดของกระเป๋าที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป
• กระเป๋าแมวแบบถือ
  กระเป๋าแมวแบบถือ ส่วนใหญ่จะมีวัสดุหรือผ้าที่มีความนุ่ม ทำให้แมวของเรารู้สึกสบายเมื่อนอนในกระเป๋า ทั้งนี้ยังมีข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ กระเป๋าประเภทนี้สามารถเปิดได้หลายทาง ทำให้การนำแมวเข้ากระเป๋าหรือนำออกมาค่อนข้างง่ายค่ะ
• กระเป๋าล้อลาก
  กระเป๋าแบบล้อลาก เป็นกระเป๋าที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับการเดินทางไปที่ต่าง ๆ และกระเป๋าประเภทนี้ยังมีขนาดที่ใหญ่อีกด้วย

2.วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าใส่แมว
การเลือกซื้อกระเป๋าใส่แมวไม่ใช่แค่เลือกที่มีลายน่ารัก ถูกใจเราเท่านั้น แต่ยังต้องเลือกให้เหมาะกับน้องแมวของเราด้วย ซึ่งวิธีการเลือกซื้อกระเป๋าใส่แมว มีดังนี้

• ขนาดของกระเป๋าแมว
  ในการเลือกกระเป๋าแมว ควรเลือกใบที่มีขนาดไม่เล็กจนเกินไปและไม่ใหญ่จนเกินไป หากกระเป๋ามีขนาดใหญ่เกินไป อาจจะทำให้น้องแมวทรงตัวลำบาก แต่ถ้าหากกระเป๋าเล็กไปก็อาจจะทำให้น้องแมวรู้สึกอึดอัด จนเกิดอาการเหน็บชาและเครียดได้
• วัสดุ
  วัสดุของกระเป๋าก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องพิจารณา ซึ่งเราควรเลือกวัสดุที่ความคงทนแข็งแรง เช่น ผ้า Oxford, ผ้า Eva, ยีนส์ หรือ PC ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นวัสดุที่คงทน และยังให้ความสบายแก่น้องแมวเมื่ออยู่ในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ
• เลือกกระเป๋าไซส์แมวโตเต็มวัย
  ถึงแม้ว่าตอนนี้แมวที่เราเลี้ยงยังเป็นแมวเด็ก แต่ PetPlease แนะนำให้ซื้อกระเป๋าแมวขนาดไซส์ตัวโตเต็มวัยไว้ก่อน เนื่องจากแมวนั้นโตค่อนข้างเร็ว ถ้าเราซื้อกระเป๋าขนาดแมวเด็กมา อีกไม่นานเราก็ต้องซื้อกระเป๋าใบใหม่อีก ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากกระเป๋าของน้องแมวที่ซื้อมาใหญ่จนเกินไป สามารถแก้ได้ด้วยการวางแผ่นผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัวไว้ที่พื้นกระเป๋า เพื่อไม่ให้เกิดการลื่นล้มแทนค่ะ
• ระบายอากาศได้ดี
  วัสดุที่นำมาทำกระเป๋าแมว ควรเป็นวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เพราะในระหว่างที่น้องแมวของเราอยู่ในกระเป๋า ถ้าหากแมวของเราหายใจไม่สะดวก อาจจะทำให้น้องแมวเครียดและร้อนใจเกินไป จนเกิด Heat Stroke ได้
• การทำความสะอาด
  เราควรเลือกกระเป๋าที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ควรเลือกวัสดุที่สามารถนำเข้าไปซักในเครื่องซักผ้าได้ จะได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้นค่ะ

3.ประโยชน์ของกระเป๋าแมว

• ช่วยลดอาการวิตกกังวล
  กระเป๋าแมวสามารถลดความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี ในกรณีที่จะต้องเจอผู้คนมากมาย หรือจำเป็นต้องพบหมอเพื่อฉีดวัคซีน น้องแมวบางตัวอาจวิตกกังวลในการพบหมอ เพื่อเป็นการลดแผลที่เกิดมาจากการขีดข่วน จึงจำเป็นต้องใช้กระเป๋าแมวเพื่อลดอัตราความเสี่ยงนี้
• ช่วยปกป้องร่างกายจากอุบัติเหตุ
  กระเป๋าแมวสามารถป้องกันและลดแรงปะทะได้ ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระเป๋าแมวที่เราเลือกด้วยเช่นกัน เราจึงจำเป็นต้องคำนึงถึงวัสดุที่มีคุณภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้งาน
• ออกไปข้างนอกได้อย่างไร้กังวล
  สำหรับทาสแมวที่ไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน หรือจำเป็นต้องออกไปข้างนอกในช่วงวันหยุด แต่อยากใช้เวลาร่วมกับน้องแมวเยอะ ๆ กระเป๋าแมวสามารถตอบโจทย์นี้ได้ ถึงแม้น้องแมวจะใช้เวลาทั้งวันในการดูทีวี แต่สำหรับน้องแมวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักช่างสังเกตแล้วนั้น การออกไปข้างนอกกับทาสแมวก็ถือเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ หากมีกระเป๋าเพื่อเป็นเกราะป้องกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถสังเกตธรรมชาติของสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร้กังวล

4.ข้อควรระวังในการใช้กระเป๋าแมว

• ขนาดที่ไม่เหมาะสมกับขนาดตัว
  น้องแมวควรที่จะสามารถยืน หรือขยับตัวได้ ดังนั้นการเลือกขนาดให้เหมาะสมจึงเป็นหนึ่งในส่วน
  สำคัญที่สุด หากเลือกขนาดผิดจะส่งผลให้เกิดการขยับตัวที่ยากลำบาก ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายโดยตรง
• แมวหนึ่งตัวต่อกระเป๋าหนึ่งใบ
  ทาสแมวที่มีน้องแมวเยอะ มักให้น้องแมวอยู่ในกระเป๋ามากกว่า 1 ตัว การกระทำเช่นนี้ อาจทำให้น้องแมวเกิดอาการวิตกกังวล และไม่สะดวกสบายในการอยู่ภายในกระเป๋า ดังนั้นน้องแมวแต่ละตัวควรต้องมีกระเป๋าของตัวเอง

5.วิธีฝึกให้แมวคุ้นกับกระเป๋า
ไม่ใช่น้องแมวทุกตัวที่จะชินกับการอยู่ในกระเป๋า เพราะกระเป๋ามีพื้นที่จำกัดและค่อนข้างแคบ ทำให้น้องแมวหลาย ๆ ตัวเกิดอาการกัลวกระเป๋าได้ ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีฝึกให้แมวคุ้นชินกับกระเป๋าค่ะ

• ฝึกให้แมวอยู่ในกระเป๋าตั้งแต่เด็ก
  การฝึกแมวให้คุ้นชินกับกระเป๋า ควรฝึกตั้งแต่แมวยังเด็ก ๆ เพราะจะฝึกได้ง่ายกว่าแมวที่โตเต็มวัยแล้ว ซึ่งแมวแต่ละตัวจะมีเวลาในการทำความคุ้นเคยกับกระเป๋าต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ถึง 1 เดือน แล้วแต่นิสัยและสายพันธุ์ของแมว
• นำกระเป๋าใส่แมวไปตั้งในสถานที่ที่แมวชอบ
  การนำกระเป๋าใส่แมวไปตั้งไวในสถานทีที่แมวชอบ จะทำให้แมวเข้าไปนอนในกระเป๋า และทำให้แมวเกิดความคุ้นชินกับกระเป๋าใส่แมวมากขึ้น
• ใส่ของเล่นหรือของที่แมวชอบลงในกระเป๋า
  การที่จะทำให้แมวคุ้นเคยกับกระเป๋าใส่แมว วิธีง่าย ๆ คือ การนำของเล่นแมวหรือของที่แมวชอบลงไปในกระเป๋า เพื่อให้แมวรู้สึกปลอดภัยและสบายใจเมื่ออยู่ในกระเป๋านั่นเองค่ะ
• ให้อาหารแมวขณะอยู่ในกระเป๋า
  การวางอาหารไว้ใกล้กับกระเป๋าหรือวางไว้ในกระเป๋า ถ้าน้องแมวของเรากิน แสดงว่าแมวรู้สึกชินกับการอยู่ในกระเป๋าแล้ว แต่ถ้าหากแมวยังไม่ยอมกิน ก็อาจจะต้องใช้เวลาให้แมวปรับตัวไปเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะรู้สึกคุ้นเคยกับกระเป๋าค่ะ
• ลองปิดกระเป๋า
  เราสามารถทดสอบได้ง่าย ๆ ว่าแมวของเราคุ้นเคยกับกระเป๋าแล้วหรือยัง ให้เรานำแมวเข้าไปใส่ในกระเป๋าแล้วลองปิดกระเป๋า และสังเกตอาการของน้องแมวดูว่าเป็นอย่างไร ถ้าแมวของเราไม่มีอาการตกใจหรือพยายามที่จะออกมา เราควรให้อาหารหรือขนมชิ้นโปรดเป็นรางวัลให้กับแมว แต่ถ้าแมวมีปฏิกิริยาที่ตกใจ หรือพยายามจะออก ก็ค่อย ๆ ฝึกใหม่ในครั้งต่อไปและทำไปเรื่อย ๆ จนแมวรู้สึกคุ้นชิน

6.คำถามที่พบบ่อย

Q: ถ้าไม่มีกระเป๋าแมวสามารถใช้ของอย่างอื่นแทนได้ไหม?
A: อาจใช้กรงหรือตะกร้าพลาสติกแบบมีฝาปิดแทนได้