No products in the cart.

ทำความรู้จัก “งูบอลไพธ่อนพาสเทล” สีสันสดใสไร้ภัยอันตราย ! 

แชร์ :

งูบอลไพธ่อนพาสเทล งูบอลไพธ่อน งู

งู จัดเป็นสัตว์ประเภทสัตว์เลื้อยคลาน ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงดูสูงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งงูที่กำลังมาแรงในหมู่คนเลี้ยงสัตว์แปลก คือ “งูบอลไพธ่อนพาสเทล” เป็นงูในวงศ์งูหลาม โดยมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Python Regius”

เมื่อพูดถึง “งู” แล้วหลายคนอาจตั้งคำถามว่าควรนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงจริงหรือไม่ และงูทุกตัวนั้นดุร้าย อันตรายหรือเปล่า วันนี้ PetPlease จะพาทุกคนมารู้จัก “งูบอลไพธ่อนพาสเทล” หรือ “งูหลามบอล” ที่ไม่มีพิษภัยให้กับมือใหม่ที่ต้องการอยากจะเลี้ยงงู แต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไรดี รับรองว่าหลาย ๆ คนจะต้องเปิดใจให้กับน้องงูมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะงูสายพันธุ์นี้ครับ 

บทความนี้ขอนำเสนอ

  • ประวัติความเป็นมาของงูบอลไพธ่อน
  • ลักษณะของงูบอลไพธ่อน
  • วิธีการเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทลอย่างถูกวิธี
  • อาหารและโภชนาการของงูบอลไพธ่อนพาสเทล
  • การสืบพันธุ์ของงูบอลไพธ่อนพาสเทล
  • การเลือกซื้องูบอลไพธ่อนพาสเทล
  • โรคที่อาจพบในงูบอลไพธ่อนพาสเทล
  • เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ที่อย่างเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทล

ประวัติความเป็นมาของงูบอลไพธ่อน

งูบอลไพธ่อนพาสเทล งูบอลไพธ่อน งู

ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้องูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้น เรามาทำความรู้จักข้อมูลพื้นฐานภูมิหลังของงูชนิดนี้กันก่อนดีกว่า สำหรับงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นเป็นกลุ่มย่อยของงูบอลไพธ่อน ที่มีความแตกต่างเพียงแค่สีผิวหนัง แต่ลักษณะอย่างอื่นนั้นเรียกได้ว่ามีความเหมือนกันเลยก็ว่าได้ งูชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Python หรือกลุ่มงูหลาม งูเหลือมที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง

งูบอลไพธ่อนมีต้นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ซึ่งจะสามารถพบเห็นได้ในแอฟริกากลางตลอดจนถึงแอฟริกาตะวันตก โดยปกติแล้วพวกเขาจะอาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก ก่อนที่จะถูกพัฒนาสายพันธุ์จนสามารถกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของใครหลาย ๆ คนในที่สุด

วิวัฒนาการของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

งูบอลไพธ่อนพาสเทลถูกพัฒนาสายพันธุ์โดยนักเพาะพันธุ์สัตว์เลื้อยคลานชาวอังกฤษ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะเขาสามารถพัฒนาสายพันธุ์ และได้ผลลัพธ์เป็นงูบอลไพธ่อนพาสเทลถึง 2 ตัวด้วยกัน ซึ่งถูกวิวัฒนาการอย่างลงตัวของยีนเด่น และยีนด้อย ทำให้เกิดผลลัพท์ที่มีคุณภาพอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ 

ลักษณะของงูบอลไพธ่อน

ก่อนที่เราจะเริ่มทำความรู้จักงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้น แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องรู้จักต้นตระกูลดั้งเดิมของพวกเขาเสียก่อน 

ลักษณะทางกายภาพของงูบอลไพธ่อนทั่วไป

ความยาวของขนาดตัวงูบอลไพธ่อน โดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 1.2 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นงูหลามที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกอีกด้วย โดยธรรมชาติแล้วนั้นลำตัวของงูบอลไพธ่อนจะมีสีน้ำตาลอ่อน หรือไม่ก็เป็นสีเหลืองไปเลย สำหรับลวดลายของงูไพธ่อนนั้นจะตัดกับสีของลำตัว โดยจะมีลวดลายสีดำ ในแต่ละตัวก็มีลวดลายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของงูชนิดนี้เลยทีเดียว 

งูบอลไพธ่อนนั้นสามารถมีสีถึง 40 สี สืบเนื่องมาจากการผสมพันธุ์กับงูชนิดอื่น ๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดลวดลายที่ไม่เหมือนใครได้เช่นเดียวกัน จึงเป็นสาเหตุของความนิยมในหมู่ผู้เลี้ยงสัตว์แปลกในปัจจุบัน 

ลักษณะทางกายภาพของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

ลักษณะภายนอกจะเหมือนงูบอลไพธ่อนตัวอื่น ๆ  แต่สิ่งที่แตกต่างนั่นก็ลักษณะของสีที่เราสามารถสังเกตได้นั่นเอง โดยจะมีลักษณะที่อ่อนกว่างูบอลไพธ่อนทั่วไป รวมถึงการมีสีเหลือง-ส้มในลวดลายแทนที่จะเป็นสีน้ำตาล บางครั้งอาจมีตาสีขาว และมีริมฝีปากเป็นสีขาวล้วน

ขนาดตัวของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

งูบอลไพธ่อนพาสเทลตัวผู้มีแนวโน้มที่จะมีขนาดของลำตัวอยู่ที่ 2 – 3 นิ้ว เหรือเพียงแค่ 0.07 เมตร หรือ 7 เซนติเมตรเท่านั้น ในขณะที่ตัวเมียจะมีขนาดของลำตัวที่ยาวกว่า ซึ่งอยู่ในมาตรฐานความยาวของงูบอลไพธ่อนทั่ว ๆ ไป นั่นก็คือ 1.2 – 1.5 นิ้วไม่เกินนี้ ตัวผู้จะมีขนาดของหางที่ยาวกว่าตัวเมีย แต่ทั้งสองเพศนั้นมีลักษะของลำตัวที่อ้วนท้วมเหมือนกัน รวมถึงลักษณะของหางที่หนา ไม่เรียวยาวเหมือนงูสายพันธุ์อื่น ๆ 

ลักษณะนิสัยของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

โดยธรรมชาติของงูสายพันธุ์นี้จะมีลักษณะนิสัยที่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ดุร้าย หรือพิษภัยอันตรายใด ๆ กับมนุษย์ แทบจะ 100 % เลยก็ว่าได้ ในช่วงแรกที่เราจะต้องทำความคุ้นเคย หรือสร้างพันธมิตรต่อกัน งูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นจะมีการขู่บ้างเล็กน้อย แต่ก็เป็นแค่ช่วงแรกของการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันเท่านั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็จะสงบนิ่งไป อีกทั้งในเวลาที่มีสิ่งเร้ามารบกวน หรือทำให้พวกเขาตกใจ งูเหล่านี้จะไม่มีการแสดงท่าทีขู่ หรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว แต่จะขดตัวเองให้มิดชิด ลักษณะคล้าย ๆ ลูกบอลกลม ๆ ซึ่งเป็นเหตุผลของชื่อเล่นอีกชื่อหนึ่ง นั่นก็คือ Ball Python

งูบอลไพธ่อนพาสเทลเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีหรือไม่ ?

งูบอลไพธ่อนพาสเทลเป็นหนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานที่ถือว่าเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ ไม่แพ้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่น ๆ ที่นิยมเลี้ยงกันเลย ซึ่งก็เป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงกลายเป็นที่ผู้ครองใจคนเลี้ยงสัตว์แปลกอย่างล้นหลาม

เชื่อง เข้ากับคนง่าย และใจเย็น

ด้วยนิสัยที่เข้ากับคนได้ง่าย ไม่มีพิษภัยใด ๆ ทำให้พวกเขากลายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี ทั้งยังเป็นสัตว์เลื้อยคลานที่ไม่ข่มขู่ หรือโมโหร้ายใส่เจ้าของ โดยไม่มีเหตุผล ผิดกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่บางครั้ง อาจเอาแต่ใจตัวเองไปบ้าง 

ความต้องการที่ไม่มากเท่าไหร่

งูบอลไพธ่อนพาสเทลรักที่จะอยู่อย่างสงบ พวกเขาจึงไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษเท่าไหร่นัก เพียงแค่ต้องการการดูแลที่จำเป็น เช่น การดูแลความสะอาดที่อยู่ หรือการดูแลความสะอาดผิวหนัง และการให้อาหารอย่างถูกวิธี ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ต้องทำเป็นประจำทุกวัน ถือว่าตอบโจทย์ผู้เลี้ยงที่ไม่ค่อยมีเวลา แต่อยากลองเลี้ยงสัตว์เป็นอย่างมาก หากยังไม่รู้จะเริ่มจากสัตว์แบบไหนดี ทางเราแนะนำว่างูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นตอบโจทย์ได้อย่างแน่นอนครับ 

วิธีการเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทลอย่างถูกวิธี

การเลี้ยงดูงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นไม่ได้ยากแต่อย่างไหน เพียงแต่ต้องศึกษาข้อมูลอย่งละเอียด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอย่างครบถ้วนมากที่สุด ซึ่งสิ่งที่สำคัญก็ไม่สามารถหนีพ้นเรื่องที่อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม การดูแลเอาใจใส่ การอาบน้ำ และการให้อาหาร ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตอย่างแข็งแรง และไร้โรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างยาวนาน อยู่เคียงข้างกับเหล่ามนุษย์ได้อย่างไร้กังวลใจ 

สถานที่เลี้ยงของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

หากใครที่คุ้นเคยกับการเลี้ยงดูงู หรือศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่เลี้ยงงูมาก่อน อาจจะมีพื้นฐานความรู้กันอย่างดีแล้ว แต่สำหรับมือใหม่ที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ บอกเลยว่าการเตรียมสถานที่สำหรับเลี้ยงงูนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด 

งูบอลไพธ่อนพาสเทล รวมถึงงูแทบทุกสายพันธุ์ ไม่ได้มีความต้องการเกี่ยวกับเนื้อที่เยอะเท่าไหร่นัก พวกเขาต้องการเพียงแค่กล่องสีเหลี่ยม หรือไม่ก็ภาชนะอะไรก็ได้ที่มีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยม ที่ซึ่งมีความยาว และความกว้างเหมาะเจาะกับขนาดของตัว แต่ต้องไม่ลืมวัสดุรองพื้น เพื่อไม่ให้วัสดุของภาชนะซึ่งเป็นที่อยู่สัมผัสกับผิวหนังของพวกเขาโดยตรง เนื่องจากอาจเกิดการเสียดสี ที่นำมาซึ่งบาดแผล หรือรอยที่ไม่พึงประสงค์ โดยเราสามารถใช้วัสดุได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น กระดาษหนังสือพิมพ์ ขี้เลื่อยสำหรับงูโดยเฉพาะ หรือแม้กระทั่ง แผ่นรองฉี่สุนัข ก็สามารถใช้ได้เช่นเดียวกัน เพียงแค่เท่านี้ก็สามารถหายห่วงเรื่องสถานที่เลี้ยงไปได้ง่าย ๆ แล้ว แต่เราจำเป็นต้องดูแลความสะอาดเป็นประจำเท่านั้นเอง 

วิธีการจับงูบอลไพธ่อนพาสเทลที่ถูกต้อง 

สำหรับการจับงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นก็แสนง่าย ก่อนที่เราจะเปิดฝากล่องออกมา เราควรที่จะเคาะ เพื่อเป็นสัญญาณเตือนว่าพวกเขาก่อน วิธีนี้จะช่วยลดความกลัวของพวกเขาลงได้เป็นอย่างดี หลังจากนั้นเราเพียงแค่จับพวกเขาจากด้านหลัง เพราะพวกเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้เพราะเปลือกตาของงูนั้นสามารถมองเห็นได้เพียงแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็เท่านั้น หากเรานึกภาพตามว่าจู่ ๆ มีสิ่งของพุ่งเข้ามาในระดับสายตา สัญชาตญาณของมนุษย์เราก็ต้องป้องกันตัวเองโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว เฉกเช่นเดียวกันกับงูบอลไพธ่อน หรืองูสายพันธุ์อื่น ๆ แต่พวกเขานั้นไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายเราก่อน ดังนั้นการจับพวกเขาจากด้านหลัง จึงเป็นวิธีที่ปลอดภัย และดีที่สุดแล้วครับ 

วิธีการอาบน้ำของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

การอาบน้ำให้กับงูบอลไพธ่อนพาสเทล หรืองูชนิดอื่น ๆ นั้นไม่ได้ยุ่งยาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้พวกเขาเป็นประจำทุกวัน หรือมีความถี่ในการอาบน้ำมากเท่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ โดยปกติแล้วเราจะอาบน้ำให้กับเหล่างูบอลไพธ่อนพาสเทล หลังจากการขับถ่าย ซึ่งก็แสนจะง่ายดาย เพียงแค่เราใช้น้ำเปล่า เทลงไปในภาชนะที่พวกเขาสามารถเล่นได้อย่างไม่อึดอัด สิ่งหนึ่งที่เราต้องคำนึงถึงเลยคือ ห้ามใช้สบู่ในการฟอกผิวหนังของพวกเขาเป็นอันขาด เพราะสารเคมีของสบู่นั้นจะเป็นอันตรายต่อผิวหนังนั่นเอง  หลังจากนั้นทำการเช็ดตัวให้แห้งสนิท

การตากแดดของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

ผิวหนังของสัตว์เลื้อยคลานแทบจะทุกชนิดต้องการวิตามินจากแสงแดด เพื่อสุขภาพที่ดีของผิวหนัง แต่เนื่องจากงูบอลไพธ่อนเป็นสัตว์กลางคืน การตากแดดในช่วงอุณหภูมิแรงจัด หรือในช่วงที่มีค่า UV สูงนั้นจึงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นัก ซึ่งช่วงเวลาที่ถูกต้องในการอาบแดดให้กับเจ้างูเหล่านี้นั้นอยู่ในช่วง 6 – 9 โมงเช้า เนื่องจากมีวิตามินที่ตอบโจทย์ความต้องการของผิวหนังพวกเขาได้เป็นอย่างดี โดยจะใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ 10 – 15 นาทีเท่านั้นครับ 

การดูแลความสะอาด ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิดใช่ไหมครับ เพียงแค่ต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพราะผิวหนังของงูนั้นไวต่อสารเคมี และแสงเป็นอย่างมากนั่นเอง 

อาหารและโภชนาการของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

และแล้วก็มาถึงความสำคัญของอาหาร และโภชนาการของงูบอลไพธ่อนพาสเทลกันแล้ว สำหรับเรื่องการให้อาหารสัตว์แปลกนั้นไม่ใช่เรื่องซับซ้อนเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้หลาย ๆ คนต่างก็ให้ความสนใจในการเลี้ยงดูสัตว์เลื้อยคลาน โดยปกติแล้วเราจะให้อาหารกับงูบอลไพธ่อนพาสเทล 14 วันต่อ 1 ครั้ง แต่หากเป็นงูเด็กแล้วนั้นจำเป็นต้องรับสารอาหารที่เยอะหน่อย จึงต้องให้อาหารอาทิตย์ละ 1 ครั้งเลยทีเดียว

อาหารที่งูบอลไพธ่อนพาสเทลต้องการ

อาหารหลักของงูบอลไพธ่อนพาสเทล คือ หนู ซึ่งเป็นแหล่งรวมพลังงานที่ครบถ้วนให้กับเจ้างูของเรา โดยไม่ต้องใช้อาหารเสริมใด ๆ เลย โดยปกติแล้วจะมีหนู่ 3 ชนิดที่สามารถเป็นอาหารให้กับงูได้ ประกอบไปด้วย หนูไมซ์ หนูแรต และหนูแอฟริกัน 

ในปัจจุบันเราไม่นิยมให้หนูสด ๆ เท่าไหร่ เพราะจะเป็นการทรมานหนู และไม่สะดวกต่อผู้เลี้ยงเท่าไหร่นัก โดยเรานิยมการให้หนูแช่แข็งเป็นอาหารแทน ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ทั้งสะอาด ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกต่อผู้เลี้ยงอีกด้วย  

การเตรียมอาหารให้กับงูบอลไพธ่อนพาสเทล

การเตรียมอาหารให้กับงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่นัก และยังมีหลายวิธีให้เลือก ซึ่งเหมาะกับความสะดวกสบายของแต่ละคน ดังนี้

การใช้ไดร์เป่าเพื่อละลายน้ำแข็ง

การลมร้อนจากไดร์เป่าผมนั้น ถือว่าเป็นวิธีเบสิคสำหรับการเตรียมอาหารแช่แข็ง เพราะง่าย และรวดเร็ว โดยเราสามารถใช้ลมร้อนเป่าให้ทั่วตัวของหนูจนกว่าน้ำแข็งจะละลายทั้งหมด หลังจากน้ำแข็งละลายจนหมดแล้ว ก็สามารถให้หนูเป็นอาหารกับงูบอลไพธ่อนพาสเทลได้เลย ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์แปลกอีกด้วย 

การใช้น้ำร้อนละลายน้ำแข็ง

สำหรับบ้านไหนที่คิดว่าการใช้ไดร์เป่าผมเป็นเรื่องสิ้นเปลือง หรือไดร์เป่าผมเกิดพังขึ้นมากระทันหัน ก็อย่าเป็นกังวลใจไป เพราะยังมีอีกหนึ่งวิธีในการละลายน้ำแข็งบนตัวของหนู ซึ่งก็คือการใช้น้ำร้อนเป็นตัวทำละลายนั่นเอง แต่ก่อนที่เราจะเทน้ำร้อนลงบนตัวของหนูนั้น ควรที่จะใช้นำหนูลงไปแช่ในน้ำอุณหภูมิห้องก่อน จากนั้นค่อย ๆ เทน้ำร้อน เพื่อเป็นตัวทำละลายน้ำแข็งบนตัวของหนูออกจนหมด หลังจากนั้นให้นำขึ้นมาเช็ดน้ำจนแห้ง เพียงเท่านี้ก็พร้อมเป็นอาหารให้งูบอลไพธ่อนพาสเทลแล้วครับ

การใช้พัดลมแอร์ละลายน้ำแข็ง

สำหรับบ้านเปิดแอร์กันเป็นประจำ และกำลังมองหาวิธีที่ไม่ต้องเปลืองค่าไฟเพิ่ม จากการใช้ไดร์เป่าผม หรือกาน้ำร้อน การใช้พัดลมแอร์เป็นตัวทำละลาย ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่ชาญฉลาดอีกวิธี เพราะพัดลมแอร์นั้นมีอุณหภูมิของความร้อนค่อนข้างสูง ซึ่งสามารถละลายน้ำแข็งบนตัวของหนูได้อย่างรวดเร็ว ไม่แพ้ไดร์เป่าผม หรือการใช้น้ำร้อนละลายเลย ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีไม่ใช่น้อยครับ 

เราสามารถทิ้งไว้เฉย ๆ ให้น้ำแข็งละลายไปเองได้หรือไม่ ? 

ตามหลักความเป็นจริงแล้วนั้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่แนะนำเท่าไหร่นัก เพราะการปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ ให้น้ำแข็งละลายเองจากอุณหภูมิห้อง มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั่นเองครับ 

อาหารที่งูบอลไพธ่อนพาสเทลควรเลี่ยง

ถึงแม้ว่าจะกินง่าย อยู่ง่าย แต่ก็มีบางอย่างที่ต้องเลี่ยงอยู่นะครับ สำหรับอาหารที่งูบอลไพธ่อนพาสทาสจำเป็นต้องเลี่ยงเลย คือ ผัก ทุกคนอาจคิดว่าผักอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เช่น วิตามิน แร่ธาตุสำคัญ และอื่น ๆ เป็นต้น แต่นั่นไม่ใช่สำหรับงูนะครับ พวกผักเขียวขจีเหล่านี้เป็นอันตรายต่อระบบการดูดซึมแคลเซียมของงู ซึ่งถ้าไม่ได้รับแคลเซียมที่เพียงพอก็อาจจะทำให้งูเกิดอาการป่วยได้ ยกตัวอย่างผักที่ไม่ควรนำมาเป็นอาหารของงู ประกอบด้วย ผักคะน้า ผักขม บรอกโคลี ผักกาด และกะหล่ำปี เป็นต้น

การสืบพันธุ์ของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

งูบอลไพธ่อนพาสเทลตัวเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ในช่วงอายุ 2 ปีขึ้นไป แต่สำหรับตัวผู้นั้นจะมีความพร้อมที่ไวกว่า โดยมีความพร้อมในช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป และการผสมพันธุ์จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมตลอดจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเพียงปีละครั้งเท่านั้น ตัวเมียจะตั้งท้องเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนที่จะคลอดเป็นไข่ และใช้เวลาการฟักไข่อีกประมาณ 2 เดือน จนกว่าจะฟักออกมาเป็นตัวครับ 

การผสมพันธุ์ให้กับงูบอลไพธ่อนพาสเทล

ในกรณีที่เราเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทลมากกว่า 1 ตัว แล้วอยากจะเพิ่มปริมาณประชากรให้มากยิ่งขึ้นนั้น ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ในขั้นตอนการผสมพันธุ์นั้นเราจะนำตัวผู้เข้าไปยังกล่อง ซึ่งเป็นที่อาศัยของตัวเมีย แนะนำให้เลือกกล่องที่เราสามารถสังเกตพฤติกรรมของพวกเขาได้ หากพวกเขามีกิริยาที่รัด หรือเกี่ยวกัน หมายความว่าการผสมพันธุ์นั้นเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ต้องเป็นกังวลใจไป 

การฟักไข่ของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

ในการตั้งครรภ์หนึ่งครั้ง งูบอลไพธ่อนพาสเทลตัวเมียจะสามารถออกไข่ได้ถึง 5 – 10 ฟองเลยทีเดียว โดยแม่งูจะรีบฟื้นฟูร่างกาย เพื่อกกไข่ตัวเองให้ลูกงูฟักตัวออกมาอย่างแข็งแรงที่สุด หลายคนมีข้อสงสัยว่าอุณหภูมิในการฟักไข่มีผลต่อเพศของงูหรือไม่ ต้องตอบตรงนี้เลยว่าไม่จริง เพียงแต่การควบคุมอุณหภูมินั้นเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะช่วยให้ระยะเวลาในการฟักไข่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเราจะควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 27 – 33 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิน้อยกว่า หรือ มากกว่านี้จะทำให้ระยะการฟักตัวของไข่นั้นใช้เวลามากกว่าเดิมครับ

หากใครที่สนใจทำเป็นธุรกิจต้องบอกก่อนเลยนะครับว่าจำเป็นต้องศึกษาอย่างละเอียด และรอบคอบ จริงอยู่ว่าการเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การมีไว้หลาย ๆ ตัว นั่นก็หมายความว่าจะเกิดปัญหาที่ตามมาได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นเราจำเป็นต้องศึกษารายละเอียดให้พร้อมที่สุด รวมไปถึงข้อห้ามต่าง ๆ ด้วยนะครับ 

การเลือกซื้องูบอลไพธ่อนพาสเทล

การพิจารณาซื้องูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้น ควรคำนึงถึงความสมบูรณ์ของงูก่อนสิ่งอื่นเสมอ งูบอลไพธ่อนพาสเทลที่สมบูรณ์จะต้องไม่ผอมเกินไป หากผอมเกินไปจะทำให้เห็นซี่โครงของงู ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ ในฐานะผู้เลี้ยง เพราะนั่นอาจหมายความว่าเราจะต้องรับผิดชอบสุขภาพที่ไม่ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งในที่สุด 

ตรวจสอบจากพฤติกรรมการกินของงูบอลไพธ่อนทาสเทล

นอกจากจะสังเกตร่างกาย และความสมบูรณ์ของงูในร้านขายสัตว์แปลกแล้ว เราจำเป็นต้องตรวจสอบให้ดีว่างูที่เราชื่นชอบนั้นมีพฤติกรรมการกินยาก หรือง่ายแค่ไหน จากการให้เจ้าของร้านเสิร์ฟอาหารให้กับเจ้างูตัวนั้น ๆ โดยเราสามารถสังเกตได้จากน้ำลายที่ไหลออกมาจากปาก และมีการตอบสนองต่ออาหารอย่างไร สังเกตจากปาก หากมีการปิดไม่สนิท แสดงว่างูตัวนั้น ๆ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับปาก ทำให้ไม่สามารถกินอาหารได้เหมือนงูปกติทั่ว ๆ ไปนั่นเองครับ

ตรวจสอบจากอวัยวะของงูบอลไพธ่อนพาสเทล

อวัยวะของงูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่สามารถสะท้อนสุขภาพของพวกเขาได้ ก็เช่นเดียวกันกับมนุษย์ หากเราสุขภาพแย่ก็จะสามารถสังเกตได้จากตาขาวใช่ไหมล่ะครับ งูชนิดนี้ก็เหมือนกัน โดยเราจะทำการสังเกตตรงผิวหนังของพวกเขาว่าเงางามหรือไม่ หากพบว่าแห้งด้านก็แปลว่างูตัวนั้น ๆ สุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก รวมถึงจะต้องมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ดีเยี่ยมด้วยนะครับ สังเกตจากการแลบลิ้นสัมผัสกับอากาศ นอกจากนี้เรายังสามารถจับพวกเขาขึ้นมา หากร่างกายของพวกเขาดูเหมือนจะอ่อนเพลียไปหน่อย หากพวกเขามีอาการเหล่านี้ก็แปลว่าอาจอยู่ในขั้นวิกฤตแล้วนั่นเองครับ 

จะทำอย่างไร…เมื่อนำงูบอลไพธ่อนพาสเทลกลับมายังบ้าน

ผู้เลี้ยงหลายท่านอาจเคยประสบปัญหาย้ายถิ่นที่อยู่ของงูบอลไพธ่อนพาสเทล และแน่นอนว่าการย้ายถิ่นที่อยู่กระทันหันนั้นส่งผลต่อความวิตกกังวลของสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใด ๆ ก็ตาม ก่อนที่เราจะนำพวกเขาออกมาเชยชม เราจำเป็นต้องจัดอุปกรณ์ และที่อยู่ให้เรียบร้อยเสียก่อนนะครับ หลังจากย้ายงูเข้าไปยังที่อยู่อาศัยที่จัดเตรียมไว้แล้ว เราไม่ควรที่จะไปรบกวนพวกเขาประมาณ 2 – 3 วัน ปล่อยให้พวกเขาปรับตัวให้กับสภาพแวดล้อมก่อนสักพัก

โรคที่อาจพบในงูบอลไพธ่อนพาสเทล

แน่นอนว่าเราจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโรคที่อาจถูกพบได้ในงูบอลไพธ่อนพาสเทล เพื่อที่จะสามารถป้องกัน และไม่ตื่นตระหนกจนทำตัวไม่ถูก เวลาที่งูของเรานั้นเกิดโรคชนิดนี้ขึ้นมา ซึ่งโรคที่อาจพบในงูบอลไพธ่อนพาสเทล มีรายละเอียด ดังนี้ 

เชื้อรางู

โรคเชื้อรางู หรือ Snake Fungal Disease เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งไม่ใช่โรคใหม่อะไร เนื่องจากถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 2010 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี่เอง  

สาเหตุ

สาเหตุของการติดเชื้อราในงูนั้น หลัก ๆ แล้วมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นความชื้นของอากาศ หรือความสกปรกของถิ่นที่ที่อยู่ที่ก่อให้เกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียมากมายนั่นเอง

อาการ

งูบอลไพธ่อนพาสเทลที่ติดโรคเชื้อรางู จะมีอาการผอมแห้ง ดวงตาไม่สดใส มีความขุ่นมัว มีรอยแผล และตุ่มรอบ ๆ เกล็ดตลอดจนถึงตรงใบหน้า

วิธีการรักษา

ถึงแม้การรักษาโรคเชื้อราในงูจะยังไม่ได้รับการก้าวหน้ามากนัก แต่หากพบว่างูของพวกมีอาการเช่นนี้ ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านสัตว์แปลก เพื่อรักษาตามอาการจะปลอดภัยให้ตัวพวกเขามากที่สุดนะครับ

เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ที่อย่างเลี้ยงงูบอลไพธ่อนพาสเทล

การจัดเตรียมสถานที่

อย่างที่เราทราบกันว่าสามารถเลี้ยงงูไพธ่อนพาสเทล หรืองูสายพันธุ์อื่น ๆ ได้ในกล่องอะคริลิก หรือกล่องพาสติก โดยพิจารณาขนาดของกล่องให้เหมาะสม แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงคืออุณหภูมิของสภาพแวดล้อมนั้นจำเป็นต้องไม่สูงจนเกินไป ควรเลี้ยงไว้ที่ ๆ เราสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ แต่ต้องเป็นสถานที่ที่อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทสะดวกเพื่อให้หายใจได้อย่างปกติ  อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ Hide Box เพื่อให้งูสามารถซ่อนตัวในกล่องเล็ก ๆ ได้เพื่อคลายความเครียด หรือกังวลใจในกรณีที่ไม่คุ้นชินกับสถานที่ครับ 

อัตราค่ารักษาพยาบาลโดยประมาณ เมื่อป่วย 

เรามาต่อกันที่อัตราค่ารักษาเบื่องต้นกันบ้างดีกว่า สำหรับอัตราค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้นนั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 1,700 บาทโดยประมาณนะครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับโรค หรืออาการ และสถานที่รักษาพยาบาลที่ทำการรักษาอยู่นะครับ 

ลักษณะและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของที่เหมาะสม

เจ้าของที่ชื่นชอบสัตว์แปลก

ขึ้นชื่อว่าสัตว์แปลก (Exotic Pets) ต่อให้เป็นงูที่ไม่มีพิษภัยใด ๆ ก็อาจทำให้หลายคนต่างผวาได้ ดังนั้นการเลี้ยงงูบอลไพธ่อนทาสเทล จึงเหมาะกับผู้เลี้ยงที่คลั่งไคล้สัตว์แปลก และศึกษาข้อมูลมากอย่างดี ถึงแม้จะไม่จำเป็นต้องใช้ความรับผิดชอบในการดูแลความสะอาดสูงเท่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ แต่ก็ยังจำเป็นที่จะต้องดูแลอย่างถูกจุดอยู่เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับผู้ที่อยากเลี้ยง แต่ยังมีความกลัวสัตว์แปลกนะครับ หากจะเริ่มเลี้ยง ควรเริ่มตั้งแต่การศึกษาข้อมูล และไตร่ตรองมาอย่างรอบคอบก่อนนะครับ 

จบกันไปแล้วกับสาระที่น่ารู้เกี่ยวกับงูบอลไพธ่อนพาสเทล เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากได้รู้จักสัตว์เลื้อยคลานสุดน่ารักเช่นนี้มากขึ้นแล้ว เริ่มอยากมีไว้ครอบครองกันหรือยัง อย่าลืมว่าการเลี้ยงสัตว์ทุกชนิดนั้นต้องอาศัยความรับผิดชอบสูง เพราะเราจะต้องรับผิดชอบชีวิตของพวกเขาจนกว่าจะหมดอายุขัย สัตว์เลี้ยงทุกชนิดสามารถเป็นเพื่อนที่ดีให้กับเราได้ เพียงแต่เราจะต้องเรียนรู้จักนิสัย และพื้นฐานภูมิหลังของเขาให้ดีเสียก่อน เปรียบเสมือนการเลือกคบเพื่อนนั่นเอง หากพบสิ่งที่ดีสำหรับตัวเองก็จะประสบพบเจอแต่ความสุขครับ! 

คำถามที่พบบ่อย

Q : การเลี้ยงงูเราจะต้องนำน้องไปอาบน้ำตากแดดหรือไม่ 

จริง ๆ แล้วเราไม่จำเป็นต้องเอาน้องมาตากแต่ก็ได้ เนื่องจากน้องเป็นสัตว์กลางคืน ดังนั้นตาน้องอาจจะไวต่อแสง แต่ว่าเราสามารถนำน้องมาอาบแดดในช่วงเช้าได้นะ เวลาสักประมาน 6 – 9 โมงเช้า สัก 10 – 15 นาที แต่ถ้าแดดหลังจาก9โมงเช้าจะไม่มีประโยชน์แล้ว ทั้งยังเป็นอันตรายกับน้อง

Q : ราคาเริ่มต้นของงูบอลไพธ่อนประมาณเท่าไหร่ ?

ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 – 2,500 หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับลักษณะที่แตกต่าง และความหายากในท้องตลอด

Q : งูบอลไพธ่อนพาสเทลมีพิษหรือไม่ ?

งูบอลไพธ่อนพาสเทลนั้นเป็นงูที่ไม่มีพิษ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ครับ

Q : อายุขัยของงูบอลไพธ่อนพาสเทลสามารถอยู่ได้กี่ปี ?

งูบอลไพธ่อนพาสเทลมีอายุโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 ปีเลยครับ 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

AUTHOR: Arthurchiii

2023, JAN 24

บทความอื่นๆ

ทำความรู้จัก ”ไก่ซิลกี้” เจ้าไก่ขนฟูสุดน่ารัก!
เลิฟเบิร์ด…นกที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Little Parrot
ทำความรู้จัก “คาปิบารา” สัตว์ตัวใหญ่ยักษ์ที่กำลังเป็นไวรัลตอนนี้!
มาทำความรู้จักกับราชาแห่งนกฟินซ์ กับนกฟินซ์ 7 สีกัน!
ทำความรู้จักเอเลี่ยนสปีชีส์ สายพันธุ์สัตว์อันตรายจากต่างแดน
10 อันดับ สัตว์แปลกสุดหายากที่นึกว่าโปเกม่อน!