เฟนเน็คฟ็อกซ์ หรือ จิ้งจอกจิ๋วแห่งทะเลทรายซาฮาร่า สัตว์เลี้ยงสุดแปลกที่กำลังเป็นที่นิยม เจ้าจิ้งจอกจิ๋ว เป็น 1 ใน 12 สายพันธุ์ตระกูลสุนัขจิ้งจอกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นจิ้งจอกที่ตัวเล็กที่สุดในโลก แถมนิสัยของมันยังขี้เล่น และเอเนอร์จี้เยอะสุดๆไปเลย ต้องบอกว่าเป็นจิ้งจอกที่น่ารักมาก น่ากอด แถมมาในไซส์กะทัดรัด พวกมันจึงกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกสายพันธุ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเหมาะมากที่จะเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ใครที่กำลังโดนน้องตก บอกเลยว่าเสียทรัพย์แน่นอนค่า!
วันนี้ PetPlease เลยอาสาขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวจิ๋ว องค์ชายน้อยแดนอียิปต์ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักแบบสุดขีด!
บทความนี้ขอนำเสนอ
- เฟนเน็คฟ็อกซ์หรือจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายมีต้นกำเนิดมาจากไหน?
- ลักษณะเฉพาะตัวของเฟนเน็คฟ็อกซ์
- นิสัยและพฤติกรรมสุดแปลก ของเฟ็คฟ็อกซ์
- วิธีเลี้ยงเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์
- อุปกรณ์เลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์ สำหรับมือใหม่
- อาหารและโภชนาการที่เหมาะกับเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์
- การดูแลที่เจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์ ต้องการเป็นพิเศษ
- โรคที่พบบ่อยในเฟนเน็คฟ็อกซ์
- เจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์เหมาะกับผู้เลี้ยงแบบไหน?
ถิ่นกำเนิดของเฟนเน็คฟ็อกซ์
เฟนเน็คฟ็อกซ์ หรือ ที่เรียกกันว่า จิ้งจอกทะเลทราย มีถิ่นกำเนิดมาจากทะเลทรายซาฮาร่า ประเทศอียิปต์ พวกมันอาศัยอยู่แถบทะเลทรายและทางตอนเหนือของแอฟริกา น้องถูกจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับสุนัข (Canidae) ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในโลกนั่นเอง
ลักษณะของเฟนเน็คฟ็อกซ์
เฟนเน็คฟ็อกซ์ จัดเป็นสุนัขจิ้งจอกที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก เพราะมีขนาดเพียง 15 เซนติเมตร น้ำหนักเพียง 1.25 กิโลกรัม ซึ่งได้ว่าเล็กกว่าสุนัขบ้านเสียอีก ขนาดและน้ำหนักตัวถือว่าเทียบเท่าชิวาวาได้เลยล่ะ และด้วยลักษณะนิสัยและหน้าตาที่น่ารักของน้อง ทำให้หลายคนอยากจะจับจองเป็นสัตว์เลี้ยงแก้เหงาที่ไม่ซ้ำใคร แต่เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ราคาสุนัขจิ้งจอกเฟนเน็คฟ็อกซ์ก็ไม่ธรรมดาเลยน้า ถ้าใครหลงรักเตรียมทุ่มเงินหมื่นรอรับไปเลี้ยงได้เลย
เจ้าจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายจอมอำพราง
เป็นสัตว์มีขนตามตัวออกสีเหลืองน้ำตาล หนาฟู ใต้ท้องสีขาว หางยาวฟู เป็นพวง เพื่อใช้ในการพลางตัวเมื่ออยู่ในทะเลทราย และยังช่วงป้องกันอุณหภูมิร่างกายจากอากาศเย็น ขนของน้องสามารถสะท้อนความร้อนได้และเก็บความอุ่นไว้เพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศในตอนกลางคืนได้ ส่วนขนที่อุ้งเท้ามีความหนาพิเศษเพื่อให้พวกเขาสามารถเดินบนทรายที่ร้อนระอุได้แทบทั้งวัน ซึ่งโดยธรรมชาติของน้องเมื่ออยู่ในทะเลทราย น้องต้องเดินเท้าออกหาอาหารประมาณ 5 ถึง 10 กิโลเมตรต่อวันอยู่แล้ว
ใบหูที่มีขนาดใหญ่มหึมา
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้เลยนั่นก็คือใบหูที่มีขนาดใหญ่ ของน้องนั่นเอง หลายคนคงสงสัยว่าทำไมหูของมันถึงใหญ่ขนาดนั้น นั่นก็เพื่อ ช่วยระบายความร้อน และใช้ฟังเสียงเหยื่อและศัตรูซึ่งถ้าเป็นเสียงที่พวกเขาสื่อสารกัน สามารถได้ยินเกือบ4-5กิโลเมตร และที่สำคัญน้องจะมีเสียงความถี่ของน้องซึ่งบางทีเราไม่ได้ยิน เช่น ถ้าเทียบกับเสียงแมลงเดินอยู่ห่างกันประมาณ 10-20 เมตร ก็สามารถรับรู้ได้เลยว่าบริเวณนั้นมีแมลงอยู่กี่ตัว และจะไปหาอาหารได้ที่ไหน
นิสัยของเฟนเน็คฟ็อกซ์
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์สังคม
ชอบอาศัยด้วยกันคล้ายกับฝูงสุนัข แต่บางครั้งก็ชอบอยู่แบบสันโดษ ว่ากันว่าเป็นสัตว์ที่รักเดียวใจเดียว มีคู่เดียวไปตลอดชีวิตอีกด้วย โดยตัวผู้จะมีนิสัยดุร้ายกว่าตัวเมีย
เฟนเน็คฟ็อกซ์มีนิสัยคล้ายแมวและสุนัขผสมกัน
เจ้าจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายพวกมันเป็นสัตว์ที่ฉลาด มีไหวพริบ คล่องแคล่ว ว่องไว ขี้เล่น ซุกซน และเป็นสัตว์ที่ใช้พลังงานเยอะมาก ๆ ที่สำคัญชอบขุดคุ้ยทำลายข้าวของเป็นที่หนึ่ง เวลาตื่นเต้นหรือตกใจจะชอบส่งเสียงแหลมออกมา แต่บางครั้งก็เป็นสัตว์รักสันโดษ ชอบอยู่ลำพัง ไม่ชอบยุ่งกับใคร อารมณ์แปรปรวนไม่ใช่เล่นเลยน้า
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์รักสะอาด
อีกหนึ่งข้อดีที่ทำให้หลาย ๆ คนโดนตก นั่นก็คือ พวกมันชอบทำความสะอาดตัวเองค่ะ แถมเป็นสัตว์ที่ไม่มีกลิ่นตัว ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย ๆ เลยด้วย (ยกเว้นกรณีที่กลัวจะปล่อยกลิ่นสาปออกมา)
วิธีการเลี้ยงดูเฟนเน็คฟ็อกซ์
ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขจิ้งจอกหลาย ๆ คนคงอาจจะกังวล เนื่องจากน้องอาจจะยังมีสัญชาตญาณสัตว์ป่า แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะปัจจุบันน้องถูกพัฒนาสายพันธุ์ ให้มีความเป็นมิตรกับมนุษย์มากขึ้น แถมเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์ยังเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายมากๆด้วย เรามาดูกันดีกว่าว่าวิธีเลี้ยงเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์ มีแบบไหนบ้าง!
การเลี้ยงแบบเปิด
เป็นการเลี้ยงไว้ภายในตัวบ้าน มีบริเวณเยอะ เนื่องจากน้องเป็นสัตว์ที่พลังเยอะมาก การปล่อยให้น้องได้วิ่งเล่น ตามใจตัวเอง จะทำให้น้องได้ปลดปล่อยพลังงานและไม่เครียดนั่นเองค่ะ แนะนำให้เลี้ยงแบบเปิดจะดีที่สุดค่ะ เพราะการเลี้ยงแบบเปิดจะทำให้น้องได้รับอิสระในการใช้ชีวิตของเขาเอง เนื่องจากน้องเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบการถูกบังคับ ส่งผลให้ในระยะยาวน้องจะไม่เกิดอาการต่อต้าน ก้าวร้าว และเชื่อฟังคำสั่งเรามากขึ้นนั่นเองค่ะ ที่สำคัญการเลี้ยงแบบเปิดควรอยู่ในความดูแลของเจ้าของหรือผู้เลี้ยงนะคะ รวมไปถึงการปรับแต่งสภาพแวดล้อมให้เข้ากับน้องในการเลี้ยงแบบเปิดด้วยนะคะ
การเลี้ยงแบบปิด
เฟนเนคฟ็อกซ์นั้นสามารถเลี้ยงแบบปิด โดยการให้ใช้ชีวิตในกรงเป็นหลักได้เหมือนกันค่ะ เพราะตัวน้องเองก็มีมุมที่มีโลกส่วนตัวสูงและสันโดษ แต่กรงกับพื้นที่ของน้องอาจจะต้องกว้างหน่อย ประมาณ 2 ฟุตขึ้นไป แต่ก็ต้องปล่อยให้น้องออกมาวิ่งเล่นแก้เหงาบ้างนะคะ
อุปกรณ์เลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์ สำหรับมือใหม่
ที่แปรงขนหรือหวีสำหรับหวีขนสุนัข
เฟนเน็คฟอกซ์สามารถใช้แปรงร่วมกับสุนัขพันธุ์เล็กได้เลย โดยควรใช้เป็นแปรงขนหมูป่าเพราะเหมาะกับสุนัขขนสั้น และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง สามารถใช้แปรงขนที่หลุดร่วงออกได้ดี รวมทั้งสิ่งสกปรก และสะเก็ดบนผิวหนังอีกด้วย
กระเป๋าหรือกรงสำหรับใส่สัตว์เลี้ยง
สำหรับกระเป๋าและกรงสัตว์เลี้ยงเป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่คนรักสัตว์ต้องมี เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากเวลาพาน้องออกไปข้างนอกหรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งสามารถใช้กระเป๋าสำหรับใส่แมว หรือสุนัขพันธุ์เล็กได้ เนื่องจากมีขนาดตัวที่ใกล้เคียงกันโดยทางเราแนะนำกระเป๋า สามกลุ่มนี้เป็นพิเศษ (ดาวร์เกรดเล็กน้อยครับ )
- กระเป๋าขอบนิ่ม: เหมาะสำหรับการเคลื่อนย้าย หรือขนส่ง แต่อย่าลืมฝึกให้น้องเฟนเน็คของเราคุ้นชิน โดยการใส่และพาเคลื่อนย้ายระยะสั้นก่อน 2-3 ครั้ง หรือจนกว่าน้องจะไม่แสดงอาการเครียด
- กระเป๋าแบบสะพายสุนัขอยู่ด้านหน้า: เนื่องจาก การสะพายด้านหน้านั้นทำให้เราสังเกตพฤติกรรมของน้องเฟนเน็คได้ง่าย และดูแลได้ง่ายกว่านั่นเองค่ะ
เตียงนอน
เนื่องจากเฟนเน็คฟ็อกซ์จัดเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับสุนัข จึงมีลักษณะและพฤติกรรมการนอนที่คล้าย ๆ กัน การเลือกใช้เตียงนอนหรือบ้านจึงสามารถใช้แทนกันได้
ชามใส่อาหาร
ชามใส่อาหารควรมี 2-3 ใบ เพื่อไว้สำหรับอาหารเปียกและอาหารแห้ง และที่สำคัญที่ขาดไปไม่ได้นั่นก็คือ น้ำ ค่ะ
กระบะทราย
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่ชอบขุดคุ้ย ควรมีกระบะทรายไว้ให้เขาได้ระบายความเครียด นอกจากนี้ยังเป็นการฝึกถ่ายอุจจาระเฉพาะจุดด้วย แต่เนื่องจากพวกมันมีนิสัยชอบขุด แนะนำให้เตรียมพื้นที่เอาไว้ให้สะดวกต่อการทำความสะอาด หรือรองไว้ด้วยผ้า เนื่องจากน้องไม่ได้ใช้ทรายแทนสุขาเพียงอย่างเดียว แต่อาจจะใช้เป็นสนามเล่นด้วย ทำให้สภาพอาจจะเละกว่ากระบะทรายของน้องแมวนั่นเอง
ผ้าเช็ดตัวสำหรับสุนัขหรือแมว
เฟนเน็คฟ็อกซ์หรือจิ้งจอกจิ๋วทะเลทราย สามารถใช้ผ้าเช็ดตัวแบบเดียวกับน้องสุนัขหรือน้องแมวได้เลยค่ะ
กรรไกรตัดเล็บ
ควรใช้กรรไกรสำหรับตัดเล็บสุนัขหรือแมว เนื่องจากใบมีดของกรรไกรเป็นรูปโค้งแบบครึ่งวงกลม สามารถตัดเล็บของสัตว์เลี้ยงได้ทุกแบบ แม้เล็บของสัตว์เลี้ยงจะมีความงองุ้มมากก็สามารถตัดได้ง่าย ซึ่งการตัดเล็บไม่มีกฎตายตัวว่า เล็บยาวกี่เซนถึงจะได้เวลาตัด แต่ให้สังเกตุหาก นิ้วน้องเริ่มเอียงตะแคง ขณะอยู่ในท่ายืนตรง แสดงว่า เล็บเริ่มยาวเลยต่ำกว่าฝ่าเท้าแล้ว ก็ควรตัดได้เลยค่ะ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานจะทำให้เล็บน้องยาวจนม้วนโค้งกลับเข้าไปฝังในนิ้วได้
อาหารและโภชนาการของเฟนเน็คฟอกซ์
พูดถึงเรื่องอาหารและโภชนาการแล้ว เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณมีสุขภาพดี แต่ที่สำคัญเราควรเลือกอาหารที่มีโภชนาการที่อุดมสมบูรณ์ครบถ้วน และเหมาะสมกับสัตว์แต่ละชนิดด้วยน้า อาหารของเฟนเน็คฟ็อกซ์จริง ๆ แล้วก็ม่ได้ต่างอะไรจากของสุนัข และน้องแมวเลยค่ะ สามารถผสมให้ทานได้ทั้งสอง แต่ควรจะอยูในปริมาณที่เหมาะสม และมีคุณภาพที่ดีด้วย
อาหารเม็ดสำหรับสุนัขหรือแมว
หนึ่งในเหตุผลที่น้องเป็นที่นิยมนำมาเลี้ยงก็คงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกิน หลังจากถูกพัฒนาสายพันธุ์มาแล้วน้องจะไม่ล่าเหยื่อ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินแมลงตัวเล็ก พืช ผัก ผลไม้หลายชนิด อาหารมื้อหลักเลยควรให้อาหารสุนัขหรืออาหารแมวเกรดดี เนื่องจากร่างกายน้องต้องการโปรตีนสูง อาหารที่ให้ควรสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนอยู่ตลอด ไม่ควรให้อาหารซ้ำๆเพราะจะทำให้น้องได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
อาหารจากธรรมชาติ
โดยปกติตามธรรมชาติเฟนเน็คฟ็อกซ์จะกินพวกแมลงหรือนอนตัวเล็ก ๆ เป็นอาหารอยู่แล้วแต่ควรมีการเสริมด้วยผักผลไม้ จำพวก กล้วย มะม่วง มะละกอ แต่ไม่แนะนำให้ทานทุกวัน และที่สำคัญควรเน้นอาหารจำพวกโปรตีน เช่น เนื้อไก่ต้ม ไข่ต้มหรือตับไก่
การดูแลที่เฟนเน็คฟ็อกซ์ ต้องการเป็นพิเศษ
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่มีลักษณะและนิสัยคล้ายกับสุนัขและแมว แต่การดูแลอาจจะแตกต่างออกไป ซึ่งไม่ว่าสัตว์เลี้ยงจะนิสัยหรือพฤติกรรมอย่างไร สิ่งที่สำคัญนั่นก็คือการหมั่นดูเอาใจใส่ และให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อควรระวังบางเรื่อง และแม้ว่าเจ้าจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายจะน่ารัก น่ากอด เจ้าของหรือคนเลี้ยงก็ควรดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด เจ้าเพื่อนหูโตจะได้อยู่กับคุณไปนาน ๆ ยังไงล่ะ ว่าแต่การดูแลที่ว่าเนี่ย มีอะไรกันบ้าง ไปดูกันค่า
การพาน้องไปออกกำลังกายโดยการเดินเล่นหรือวิ่งเล่นกลางแจ้ง
เนื่องจากน้องเป็นสัตว์ที่มีเอเนอร์จี้เยอะและเป็นสัตว์สังคม จึงต้องมีการพาน้องออกไปทำกิจกรรมหรือปล่อยให้วิ่งเพื่อเป็นการปลดปล่อยพลังงาน มิฉะนั้นน้องอาจจะเครียดได้ รวมไปถึงเจ้าของเองก็ต้องมีเวลาให้น้องมากๆด้วย
การฝึกเลี้ยงน้องร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ
การฝึกเลี้ยงน้องร่วมกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆจะเป็นการฝึกให้น้องได้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของหรือสัตว์อื่นๆมากขึ้น เช่น อาจเลี้ยงคู่กับสุนัขหรือน้องแมว เนื่องจากพวกเขามีนิสัยที่ค่อนข้างจะคล้ายกัน
การพาน้องออกไประบายความเครียดด้วยการขุดโพรง
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่ชื่นชอบการขุดคุ้ยและทำลายข้าวของเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติ การพาน้องออกไปขุดโพรงเล่นถือเป็นอีกหนึ่งวิธีระบายความเครียดของเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์ ฉะนั้นการเตรียมกล่องทรายเอาไว้ หรือพาไปเที่ยวตามพื้นที่ ที่มีดินอ่อนๆ เหมาะกับการขุดบ้างก็เป็นเรื่องดีเหมือนกัน
การให้เฟนเน็คฟ็อกซ์เล่นกล่องของเล่นที่มีความซับซ้อน
โดยปกติ หมาจิ้งจอกนั้นขึ้นชื่อเรื่องความฉลาดอยู่แล้ว เช่นเดียวกับการเล่นของเล่น ดดยอาจจะให้เฟนเน็คฟ็อกซ์นั้นจะสนุกกับของเล่นที่ซับซ้อนกว่าหมาหรือแมว เพื่อให้น้องได้ฝึกสมองและทักษะตามสัญชาตญาณธรรมชาติ เหมือนกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงทั่วไป ที่เราต้องหมั่นฝึกให้เขาใช้ความคิดและมีไหวพริบในการเอาตัวรอดนั่นเองค่ะ แต่สำหรับใครที่มองว่าของเล่นกลุ่มนี้อาจจะหาได้ยาก การฝึกฝนคำสั่งหรือทริคต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ให้น้องได้ฝึกสมองค่ะ
ดูแลในเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยบ่อย ๆ
ความสะอาดและสุขอนามัยเป็นสิ่งที่เจ้าของหรือคนเลี้ยงทุกคนควรปฏิบัติอยู่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงประเภทไหนก็ตาม โดยเฉพาะเจ้าจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายน้องเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อและป่วยได้ง่ายมาก ดังนั้นควรดูแลและใส่ใจในเรื่องของความสะอาดให้ดีที่สุด โดยปกติแล้วแนะนำให้อาบน้ำให้น้องทุก (กี่วัน / กี่สัปดาห์ ?) รวมไปถึงคอยดูแลพื้นที่ของน้องให้สะอาดเสมอ
โรคที่เฟนเน็คฟ็อกซ์มีความเสี่ยงสูง
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่มีแนวโน้มเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่ายมาก เช่นเดียวกับที่เราพบได้ในสุนัข นอกจากนี้เฟนเน็คฟ็อกซ์ ยังสามารถเป็นพาหะนำโรคที่อาจติดต่อไปสู่คนได้ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งโรคที่ตรวจพบได้บ่อยในเฟนเน็คฟ็อกซ์ ได้แก่
โรคไต
โรคไต เป็นโรคที่เกิดได้จากอาหารสุนัขบางชนิดที่ประกอบไปด้วยฟอสฟอรัสสูง และอาหารสุนัขที่มีการเพิ่มปริมาณของ protein มากเกินไป ซึ่งสามารถทำให้โรคไตกำเริบได้ โดยอาจสังเกตได้จากอาการดังต่อไปนี้ กระหายน้ำปละปัสสาวะมากขึ้น เบื่ออาหาร น้ำหนักตัวลดลง ลมหายใจเหม็น อาเจียนและท้องเสีย เจ็บปาก อ่อนเพลีย ซึมเศร้า เป็นต้น
โรคหัวใจ
สำหรับโรคหัวใจในสุนัข สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- โรคหัวใจที่เป็นมาแต่กำเนิด มักพบว่าน้องสุนัขมีอาการผนังกั้นหัวใจเป็นรู อาการตีบของลิ้นหัวใจ
- โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง พบได้ในสุนัขที่มีอายุมากหรือน้ำหนักเกินเกณฑ์ อาจพบได้ในน้องสุนัขที่มีการออกกำลังกายและใช้ร่างกายอย่างหักโหม ซึ่งโรคหัวใจประเภทนี้จะมีการพัฒนาขึ้นในช่วงกลางชีวิต เช่น ภาวะลิ้นหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจโต โดยพบได้ 2 ชนิดใหญ่ ๆ ได้แก่ โรคลิ้นหัวใจรั่วและโรคกล้ามเนื้อหัวใจ
โรคปอดบวม
โรคปอดบวม เป็นหนึ่งในโรคที่มีอาการของปอดอักเสบบวกกับการติดเชื้อ พบได้บ่อยในสุนัขมีทั้งแบบเฉียบพลันและเบบเรื้อรัง เกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อไมโครพาสมา และยังเกิดได้อีกหลายสาเหตุ เช่น การสำลักน้ำหรืออาหาร การสูดดมเชื้อราโดยตรง การติดเชื้อในกระเเสเลือด
- อาการที่พบได้บ่อย หายใจลำบาก เช่นมีการอ้าปาก มีการยืดคอ หายใจถี่ อ่อนเพลีย
- การป้องกันโรคปอดบวม เป็นโรคที่รักษาได้แต่อาจจะต้องใช้เวลานอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 3 -7 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนเเรงและสาเหตุ การป้องกันปอดบวมให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด คือ
- ควรมีการตรวจสุขภาพประจำปี สามารถบอกอาการได้แต่เนิ่น ๆ ทำให้รักษาได้ทันท่วงที
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการสำลัก
- หมั่นทำความสะอาดบ้านไม่ให้เป็นที่สะสมของเชื้อรา
โรคผิวหนัง
โรคผิวหนัง เป็นหนึ่งในโรคที่กวนใจเจ้าของและมักจะพบเจอได้บ่อย ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว โดยสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาโรคผิวหนังจะแสดงอาการออกมาคล้าย ๆ กัน เช่น คัน เกา ผิวหนังแดงอักเศบ มีผื่นขึ้นตามตัว มีสะเก็ดหรือผิวหนังหลุดลอก บางครั้งอาจส่งกลิ่นเหม็นออกมาด้วย เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น เห็บหมัด แพ้อาหาร ภูมิแพ้สิ่งแวดล้อมเป็นต้น
วิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น
- แชมพูรักษาโรคผิวหนัง เป็นแชมพูสำหรับรักษาโรคผิวหนังสุนัขโดยเฉพาะ มีส่วนประกอบของยาฆ่าเชื้อช่วยในการทำความสะอาด ช่วยให้แผลแห้ง และลดอาการคัน
- วิตามินอี น้ำมันที่มีส่วนผสมของวิตามินอีจะช่วยปลอบประโลมผิว ให้ความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยสมานแผลให้ดีขึ้นอีกด้วย
เฟนเน็คฟอกซ์เหมาะกับเจ้าของแบบไหน
แน่นอนว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่ง เราอาจจะเลือกเลี้ยงเพราะหน้าตาที่น่ารักหรือสัตว์เลี้ยงที่มีความแปลกและเป็นพันธุ์หายากเพียงอย่างเดียวไม่ได้ อย่างเจ้าเฟนเน็คด็อกซ์ ก็เป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่น่ารัก มีความแปลกใหม่ และลักษณะนิสัยที่แตกต่างออกไป ซึ่งก็อาจจะเป็นนิสัยที่ไม่ได้เข้ากับผู้เลี้ยงทุกคน
ก่อนตัดสินใจเลี้ยงผู้เลี้ยงควรพิจารณาถึงลักษณะนิสัยและกิจวัตรประจำวันของผู้เลี้ยงดูก่อนว่ามีความเหมาะสมที่จะเลี้ยงสายพันธุ์นี้หรือไม่? แล้วเจ้าของแบบไหนที่จะเหมาะกับเจ้าเฟนเน็คด็อกซ์ เราไปดูกันเลย
เจ้าของที่มีเวลาดูแลเอาใจใส่เฟนเน็คฟ็อกซ์
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่มีพลังเยอะและซุกซนก็จริง แต่บางครั้งน้องก็ชอบอยู่ลำพังไม่อยากยุ่งกับใคร แถมชอบทำเสียงร้องครวญครางโหยหวน จึงไม่เหมาะกับคนที่รักความสงบ แต่เหมาะกับคนที่มีเวลาเพราะเป็นสัตว์ที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษบางครั้งก็เดาอารมณ์ไม่ถูกๆพอๆกับมนุษย์เลยค่า
เจ้าของที่มีกำลังทรัพย์ในการดูแล
เนื่องจากเจ้าเฟนเน็คด็อกซ์เป็นสุนัขพันธุ์หายาก ที่ไม่ค่อยมีใครนิยมเลี้ยง เพราะค่าตัวของน้องมีราคาที่สูงมาก เหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชมในสัตว์ที่รูปร่าหน้าตาแปลก และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสิ่งที่ตามมาก็คือค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูที่ต้องใช้มากกว่าสัตว์เลี้ยงทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการค่ารักษาพยาบาลเวลาน้องป่วย ค่าอาหารการกิน ที่ออกแบบมาเพื่อเฟนเน็คฟ็อกซ์โดยเฉพาะ
เจ้าของที่ชอบทำกิจกรรมหรือแอคทีฟ
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์ที่มีพลังเยอะ บางครั้งจะซุกซนและมีนิสัยชอบขุด ทำลายข้าวของ กลางวันจะหลับกลางคืนจะตื่น ดังนั้นน้องจึงเหมาะกับเจ้าของที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย หรือชอบการออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ไม่ชอบอยู่เฉย สามารถมีเวลาเล่นกับน้องได้ตลอดทั้งวัน
ข้อควรระวัง
เฟนเน็คฟ็อกซ์เป็นสัตว์กระดูกอ่อน
จุดอ่อนของเฟนเน็คฟ็อกซ์คือเป็นสัตว์ที่กระดูกหักเปราะง่ายดังนั้นน้องจึงไม่เหมาะกับการเล่นหนัก ๆ เหมือนสุนัขทั่วไปค่ะ รวมไปถึงสภาพแวดล้อมของน้องอาจจะต้องเปิดโล่งและระวังของชิ้นเล็กๆหรือ ของแข็งๆค่ะ
มีอาการท้องเสียบ่อย
ระวังเรื่องของเชื้อโรคเพราะน้องสามารถติดโรคที่อยู่ในเมืองได้ง่ายมาก ควรทำความสะอาดห้องหรือกรงให้สะอาดอยู่เสมอ
ผิวหนังสามารถเกิดเชื้อราได้ง่าย
ผู้เลี้ยงไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยๆ เพราะน้องเป็นสัตว์ที่ชอบทำความสะอาดตัวเองอยู่แล้ว ที่สำคัญไม่ควรเลี้ยงไว้ในที่ที่อับชื้นหรือมีน้ำขังเพราะอาจจะเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราผิวหนังได้ง่ายค่ะ
ไม่ควรเลี้ยงร่วมกับสัตว์อื่น
เพราะการเลี้ยงร่วมกับสัตว์อื่น ๆ อาจทำให้เกิดการทะเลาะหรือทำร้ายกันได้ เนื่องจากเฟนเน็คฟ็อกซ์ยังมีสัญชาตญาณความเป็นสัตว์ป่าอยู่ โดยเฉพาะตัวผู้ที่มีนิสัยดุร้ายกว่าตัวเมีย ถึงน้องจะถูกพัฒนาให้เป็นมิตรขึ้นก็จริงค่ะ แต่เราก็ไม่ควรนิ่งนอนใจนะคะ ควรป้องกันไว้จะดีที่สุดค่ะ
ไม่ควรให้เฟนเน็คฟ็อกซ์ทานอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า
สิ่งที่เฟนเน็คฟ็อกซ์ควรหลีกเลี่ยงอีกหนึ่งสิ่งนั่นก็คือ การทานเนื้อดิบแบบสัตว์ป่าค่ะ เพราะจะทำให้น้องได้รับโภชนาการแบบที่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ในเนื้อสด อาจจะมีเชื้อโรคหรือแบคทีเรียตัวร้าย ที่ส่งผลให้น้องป่วยถึงขั้นท้องเสีย และอาจจะเสียชีวิตได้เลย
ไม่ควรให้อยู่ในกรงมากไป
เฟนเน็คฟ็อกซ์ที่ถูกขังในกรงมากไปจะมีนิสัยก้าวร้าว และจะชอบวิ่งซนหรือทำลายข้าวของมากกว่าปกติ
ห้ามตวาด
การเลี้ยงเฟนเน็คฟ็อกซ์ไม่ควรตวาดหรือด่าว่าน้องเด็ดขาด ไม่ว่าน้องจะซนทำข้าวของเสียหายหรือขับถ่ายไม่เป็นที่ มิฉะนั้นเขาจะเริ่มดื้อ เกิดการต่อต้านจนไม่ฟังคำสั่ง
คำถามที่พบบ่อย
Q: เฟนเน็คฟ็อกซ์ สามารถนำมาเลี้ยงในบ้านได้จริงหรอ?
A: ปัจจุบันมีการออกใบอนุญาตให้สามารถเลี้ยงได้แล้วค่ะ แต่ในบางประเทศอาจจะไม่อนุญาต อย่างไรก็ตามน้องยังมีสัญชาตญาณของนักล่าอยู่ เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจนำมาเลี้ยงควรศึกษานิสัย และวิธีการเลี้ยงดูอย่างละเอียด
Q: เฟนเน็คฟ็อกซ์ต้องฉีดวัคซีนไหม แล้วสามารถใช้วัคซีนกับสุนัขได้เลยหรือเปล่า?
A: ควรฉีดเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ เมื่อได้รับน้องมาเลี้ยงใหม่ ๆ ควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งน้องสามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าได้เช่นเดียวกับสุนัขทั่วไปเลยค่ะ
Q: เฟนเน็คฟ็อกซ์เลี้ยงง่ายไหม?
A: แน่นอนค่ะ ถ้าคุณเตรียมพร้อมและสามารถรับมือทุกอย่างสำหรับเจ้าเฟนเน็คฟอกซ์ ไว้อย่างดีแล้วละก็ บวกกับการมีเวลาคอยดูแลเอาใจใส่ให้เหมือนกับเขาป็นเพื่อนแท้ของคุณ ให้เขามีสุขภาพที่เเข็งแรงและปลอดภัยเท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะค่ะ
Q: สามารถเลี้ยงเจ้าจิ้งจอกทะเลทรายในคอนโดหรือหอพักได้ไหม?
A: จริง ๆ แล้วไม่ควรค่ะ เพราะการอยู่ในที่แคบหรือห้องสี่เหลี่ยมนาน ๆ อาจจะทำให้เจ้าจิ้งจอกจิ๋วเ กิดอาการเครียดและเป็นโรคซึมเศร้าได้ แต่ถ้าคุณอยากจะเลี้ยงเขาไว้ในคอนโดปิดจริงละก็ คุณควรมีเวลาเล่น หรือหาเวลาพาเขาออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ่อย ๆ ให้เขาได้ใช้พลังงาน และควรฝึกออกคำสั่งให้เขารู้จักการใช้กระบะทรายด้วยก็จะดีมากค่ะ
Q: เฟนเน็คฟ็อกซ์หรือเจ้าจิ้งจอกจิ๋วทะเลทรายมีอายุได้ถึงกี่ปี?
A: ตามธรรมชาติแล้ว จิ้งจอกทะเลทราย จะมีอายุได้ถึง10 – 11ปีค่ะ แต่ถ้าเรานำเขามาเลี้ยงและดูแลอย่างดีเขาอาจมีอายุยืนได้ถึง 15 ปีเลยทีเดียว
เฟนเน็คฟ็อกซ์หรือเจ้าจิ้งจอกทะเลทราย เป็นสัตว์ Exotic ชนิดหนึ่ง อาจจะเป็นสัตว์ที่ดูเลี้ยงยาก แต่ถ้าเราพร้อมและอยากเลี้ยงน้องจริง ๆ ก็ไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ สิ่งที่จำเป็นเลยในการเลี้ยงเจ้าเฟนเน็คฟ็อกซ์หรือสัตว์เลี้ยงชนิดไหนก็แล้วแต่ นั่นก็คือการเตรียมความพร้อมและการดูแลเอาใจใส่เขาให้ดีที่สุดค่ะ สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่สงสัยว่าทำไมเจ้า Exotic Pet ถึงเป็นที่นิยม มาหาคำตอบด้วยกันที่นี่เลย!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- 8 Facts About Fennec Foxes and Their Care
- Should You Keep Fennec Fox (Desert Fox) as a Pet?
- Fennec Fox Complete Care Guide
- เฟนเน็คฟ็อกซ์ (Fennec Fox) จิ้งจอกจิ๋วเจ้าแห่งทะเลทราย
- ทำไมจิ้งจอกทะเลทรายถึงหูใหญ่?
- หวีแปรงขนสัตว์เลี้ยง ที่ดีที่สุด สำหรับขนสั้นและขนยาว
- ความจริงเกี่ยวกับโรคไตในสุนัข
- หัวใจไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มารู้จักโรคหัวใจในน้องหมากันเถอะ
- โรงผิวหนังสุนัข
- โรคปอดบวมในสุนัข
AUTHOR: AEOHHH
2022, DEC 29