หมาแมวได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมตลอดกาล แต่หลายคนก็อาจจะเห็นน้อง ๆ มาเยอะจนเบื่อไปแล้ว และอยากมองหาสัตว์เลี้ยงใหม่ ๆ บ้าง
PetPlease ขอแนะนำซาลาแมนเดอร์หนึ่งในสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงพิเศษหรือที่เรียกว่า “exotic pet” ที่ชื่ออาจจะดูน่ากลัว แต่ตัวจริงของมันกลับน่ารักจนทำให้ใครหลาย ๆ คนหลงรักจนต้องหามาไว้ในครอบครอง สัตว์เลี้ยงชนิดนี้จะมีความพิเศษสมชื่อสัตว์พิเศษอย่างไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย!
บทความนี้ขอนำเสนอ
- ประวัติและถิ่นกำเนิดของซาลาแมนเดอร์
- ซาลาแมนเดอร์สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง
- วิธีการเลี้ยงซาลาแมนเดอร์
- เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ที่อยากเลี้ยงซาลาแมนเดอร์
- คำถามที่พบบ่อย
ประวัติและถิ่นกำเนิดของซาลาแมนเดอร์
ซาลาแมนเดอร์จัดเป็นสัตว์กลุ่มครึ่งบกครึ่งน้ำ (Amphibia) เจ้าตัวนี้ถูกค้นพบในแหล่งทางธรณีวิทยาในจีนและคาซัคสถาน ซึ่งมีอายุย้อนไปถึงยุคจูราสสิคตอนกลางเมื่อราว 164 ล้านปีก่อนเลยล่ะค่ะ นับว่าเป็นสัตว์ที่มีความเป็นมาที่ยาวนานมาก! ชื่อซาลาแมนเดอร์นั้น ถูกบัญญัติขี้นมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณตามชื่อของเทพีแห่งสายน้ำ Scarmander เนื่องจากน้อง ๆ จะสามารถพบได้ตามแม่น้ำโดยเฉพาะในวันที่ฝนตกกำลังจะตก ทำให้น้องถูกนำมาเป็นตัวแทนของสายน้ำ ก่อนที่ในสมัยยุโรปกลาง ตำนานของซาลาแมนเดอร์จะถูกเล่าในรูปแบบของตัวแทนแห่งไฟ มีรูปร่างคล้ายจิ้งจก แต่เมื่ออยู่ในไฟแล้วไม่ตาย มาต่อกันที่นิวต์กันบ้าง นิวต์ถือเป็นซาลาแมนเดอร์ขนาดเล็ก มักพบในทวีปอเมริกาเหนือ, ยุโรป และเอเชีย ถึงแม้ว่าลักษณะเผิน ๆ ของนิวต์มองแล้วจะเหมือนซาลาแมนเดอร์มากแค่ไหน แต่จริง ๆ แล้วพวกมันไม่เหมือนกันเลยค่ะ ลักษณะนี้ของนิวต์จะมีผิวหนังที่แห้งและขรุขระหรือเป็นตะปุ่มตะป่ำกว่าซาลาแมนเดอร์ และยังมีพิษด้วยนะ ซึ่งในประเทศไทยก็ได้มีการค้นพบนิวต์สายพันธุ์ใหม่ เรียกว่า กะท่าง มักพบบนดอยสูงทางภาคเหนือ จัดเป็นจำพวกซาลาแมนเดอร์สายพันธุ์เดียวที่พบในประเทศไทยค่ะ นอกจากนี้ยังมีไซเรนที่นับเป็นซาลาแมนเดอร์อีกหนึ่งประเภทด้วย เจ้าตัวนี้จะมีรูปร่างและลักษณะที่แตกต่างจากซาลาแมนเดอร์อื่น ๆ พอสมควร คือ พวกมันจะมีลำตัวเรียวยาวเหมือนกับปลาไหลหรืองู แถมยังไม่มีขาคู่หลังและกระดูกเชิงกรานอีกด้วย นอกจากนี้ถึงแม้ว่าพวกมันจะโตเต็มวัยแล้ว แต่ก็ยังคงรูปร่างในตอนที่เป็นตัวอ่อนไว้ ก็คือ ไม่มีเปลือกตา, มีเหงือก, มีช่องเปิดเหงือก 1 คู่ หรือ 3 ช่อง, ไม่มีฟัน, ไม่มีกระดูกแมคซิลลา เป็นต้น
Fun Fact: ชื่อตัวละคร นิวต์ สคาแมนเดอร์ (Newt Scamander) จากซีรีส์ Harry Potter และ Fantastic Beast เองก็ถูกตั้งชื่อล้อกับเจ้า ซาลาแมนเดอร์ หรือตัว นิวต์ (Newt) นี้เช่นกัน
ซาลาแมนเดอร์สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง
ซาลาแมนเดอร์มีหลายสายพันธุ์มาก ๆ ทั้งที่นิยมเลี้ยงและไม่นิยมเลี้ยงเพราะพื้นฐานร่างกายของน้องนั้นมีพิษที่รุนแรงและเบาต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงนั้นหลัก ๆ มี 4 สายพันธุ์ คือ
นิวต์ท้องแดง (Fire Belly Newt)
นิวต์ท้องแดงมีลำตัวสีดำ ส่วนหางแบนเหมือนใบพาย มีช่วงท้องเป็นสีเหลืองมีแต้มสีส้มหรือแดง ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมีย เจ้าตัวนี้มักออกหากินในเวลากลางคืน โดยกินสัตว์น้ำและแมลงขนาดเล็ก เช่น หนอน, กุ้งฝอย, หนอนแดง, ไส้เดือนน้ำ, ลูกอ๊อด เป็นต้น
โดยนิวต์ท้องแดงจะมีความพิเศษเนื่องจากพวกมันมีพิษบริเวณผิวหนัง ที่ถูกจัดอยู่ในประเภทเตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) หรือเป็นพิษแบบเดียวกับที่มีในปลาปักเป้า ทว่ามีความรุนแรงน้อยกว่ามาก จัดเป็นพิษแบบอ่อน ไม่ก่อให้เกิดอันตรายสำหรับมนุษย์หากใช้มือเปล่าไปแตะต้องถูกเข้า แต่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายเมื่อเผลอกลืนหรือกินเข้าไปเท่านั้นค่ะ ถึงแม้ว่าพิษของนิวต์จะไม่มีผลต่อร่างกายมนุษย์มากนัก แต่กับสัตว์เลี้ยงหากโดนพิษของนิวต์เข้าไปก็จะทำให้เกิดอาการน้ำลายไหล น้ำลายไหล หรือแม้แต่มีฟองที่ปาก ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณของพิษนั่นเองค่ะ ดังนั้นถ้าบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ ร่วมด้วยในบ้าน ให้พาพวกเขาหลีกเลี่ยงจากนิวต์ หรือก่อนจะไปเล่นกับสัตว์ชนิดอื่น ๆ ให้คุณล้างมือให้สะอาดก่อนจะดีต่อตัวคุณและสัตว์เลี้ยงในบ้านด้วยค่ะ (เพิ่มเรื่องอาการหลัง โดนพิษ เล็กน้อยครับ)
ซาลาแมนเดอร์ไฟ (Fire Salamander)
เป็นซาลาแมนเดอร์ขนาดเล็กที่พบได้ทั่วไปในยุโรป ซาลาแมนเดอร์ไฟเป็นสัตว์ที่หากินกลางคืน และไม่ชอบแสงจัด ๆ ดังนั้นในตอนกลางวันพวกมันมักแอบอยู่ตามใต้ขอนไม้หรือใบไม้ ที่เย็นและชื้น อาหารของพวกมันคือสัตว์ที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น แมลง,ไส้เดือน,ทาก,กุ้ง,ปลา เป็นต้น
บนตัวของซาลาแมนเดอร์ไฟยังมี ต่อมพิษจำพวกอัลคาลอยด์กระจายอยู่ตามตัว ส่งผลให้กล้ามเนื้อของผู้ได้รับสารพิษหดเกร็ง และมีความอันตรายในระดับหนึ่ง แม้จะฟังดูอันตรายแต่สายพิษนี้สามารถดูดซึมได้ผ่านการบริโภคเท่านั้น ฉะนั้นหากไม่กินตัวซาลาแมนเดอร์ไฟก็ไม่จำเป็นต้องกังวล และต้องอย่าลืมล้างมือทุกครั้งเมื่อแตะตัวหรือเล่นกับน้อง
โดยการที่เจ้าซาลาแมนเดอร์ไฟ นี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดเกี่ยวกับตำนานของซาลาแมนเดอร์ที่ถูกเล่าขานกันมาในปัจจุบัน เนื่องจากตัว Fire Salamander นั้นชอบที่เย็นและชุ่มชื้นทำให้น้องอาจจะแอบไปหลบอยู่ตาม กองฟืนของชาวบ้าน โดยเมื่อจุดไฟเผาน้องก็ตกใจกลัวความร้อนและวิ่งออกมา ทำให้คนเข้าใจผิดว่าน้องเกิดมาจากกองไฟ แถมบนตัวของ ซาลาแมนเดอร์ไฟนั้นยังมีเมือกที่กันความร้อนได้ในช่วงเวลาหนึ่ง ทำให้เมื่อชาวบ้านลองโยนเจ้าซาลาแมนเดอร์เข้าไปในกองไฟเป็น ๆ ตัวมันก็จะวิ่งออกมาได้ทุกครั้ง จนกลายเป็นตำนานภูติแห่งไฟในเวลาต่อมา
ซาลาแมนเดอร์เสือ (Tiger Salamander)
เป็นหนึ่งในซาลาแมนเดอร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือเลยค่ะ โดยลักษณะของเจ้าตัวนี้ คือ มีหัวที่กว้างและร่างกายที่แข็งแรง สีจะแปรผันตามช่วง พื้นผิวด้านหลังเป็นสีเทาน้ำตาลเข้มหรือดำมีแถบและจุดสีเหลืองโคลนทำให้มีสีเหมือนเสือ พื้นผิวหน้าท้องแตกต่างกันไปตั้งแต่สีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม ตัวอ่อนมีจุดสีเข้มและสีอ่อนสลับกันที่กึ่งกลางของพื้นผิวด้านหลังและมีแถบสีซีดวิ่งไปตามด้านข้าง โดยเจ้าซาลาแมนเดอร์เสือนั้นถูกนับว่าเป็น สายพันธุ์ที่เหมาะกับการนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงมากที่สุด เพราะน้องสามารถคุ้นชินกับคนได้หลังจากผ่านเวลาไปช่วงหนึ่ง นอกจากนั้นพิษบนตัวยังไม่มีอันตรายเท่าเพื่อน ๆ สายพันธุ์อื่น พิษบนตัวน้องนั้นจะมีรสชาติแย่มาก ๆ จนนักล่าไม่อยากกินเท่านั้นเอง
หมาน้ำ (axolotl)
หมาน้ำหรือคนไทยอาจจะคุ้นเคยว่ามันคือซาลาแมนเดอร์ จัดอยู่ในกลุ่ม Siren ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำเป็นหลักพวกมันมีถิ่นกำเนิดและอาศัยอยู่ในแถบทะเลสาบโซชิมิลโก (Xochimilco) ทางตอนกลางของประเทศเม็กซิโก จึงเรียกกันติดปากว่า ปลาตีนเม็กซิโก
จุดเด่นของหมาน้ำ คือ พู่เหงือกสีแดงสด ซึ่งเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจซึ่งติดตัวเจ้าตัวนี้มาตั้งแต่ฟักออกจากไข่ โดยไม่หายไปเหมือนกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำตัวอื่น ๆ เราสามารถเลี้ยงหมาน้ำในตู้ปลาและอยู่ในน้ำเหมือนปลาเลยค่ะ นอกจากนี้เจ้าหมาน้ำเป็นสัตว์ที่ไม่มีเปลือกตา อีกทั้งยังมีสีผิวแตกต่างกันและหลากหลายด้วย เช่น สีน้ำตาลเข้ม สีดำ สีส้ม สีขาวตาดำ หรือแม้กระทั่งสีขาว แต่ที่ทุกคนคุ้นเคยกันคงจะเป็นผิวหนังสีขาวมากกว่าสีอื่น ๆ ค่ะ
วิธีการเลี้ยงซาลาแมนเดอร์
ซาลาแมนเดอร์ที่อาศัยอยู่บนบก เจ้าพวกนี้มักจะกินหนอนและแมลงเป็นอาหาร โดยเฉพาะจิ้งหรีด ไส้เดือน หนอนผีเสื้อ และลูกน้ำ ส่วนซาลาแมนเดอร์ที่อาศัยอยู่ในน้ำจะกินกุ้งและปลาตัวเล็ก ๆ เป็นอาหาร ทั้งนี้จะต้องเลือกขนาดของอาหารที่มีความเหมาะสมกับตัวของน้องด้วย ไม่ใหญ่จนเกินไป และห้ามเอาอาหารของคนให้น้องกินเป็นอันขาด! ในการให้อาหาร คุณต้องให้อาหารสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งเท่านั้น
นอกจากนี้ซาลาแมนเดอร์สามารถเลี้ยงได้ในตู้เช่นเดียวกับการเลี้ยงปลา แต่ต้องจัดสรรพื้นที่ให้มีทั้งแอ่งน้ำและบนบก เนื่องจากน้องเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกจึงต้องการความชุ่มชื้นอยู่เสมอค่ะ และอีกเรื่องหนึ่งที่จำเป็นมาก ๆ คือ เราต้องล้างมือทุกครั้งหลังจับเจ้าซาลาแมนเดอร์ เพราะบนผิวหนังของน้องมีพิษ ซึ่งอาจจะไม่ส่งผลและอันตรายต่อมนุษย์มากนัก แต่ระวังไว้จะดีกว่าค่ะ!
เรื่องที่ควรรู้สำหรับผู้ที่อยากเลี้ยงซาลาแมนเดอร์
เนื่องจากเจ้าซาลาแมนเดอร์เป็นสัตว์ Exotic ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้นิยมเลี้ยงเหมือนกับน้องหมาน้องแมว จึงอาจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับซาลาแมนเดอร์ยากไปสักหน่อย แต่วันนี้ PetPlease ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าตัวนี้มาให้ทุกคนแล้วค่ะ จะมีอะไรบ้างมาดูกัน!
การจัดเตรียมสถานที่สำหรับซาลาแมนเดอร์
มาเริ่มกันที่การจัดเตรียมสถานที่ในการเลี้ยงซาลาแมนเดอร์กันค่ะ โดยปกติแล้วซาลาแมนเดอร์ชอบอยู่ในพื้นที่ชื้นและมีที่ให้ซ่อนตัว เราจึงควรเลี้ยงเจ้าตัวนี้ในกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดมิดชิด แต่ต้องเจาะรูด้านข้างเพื่อให้ระบายอากาศ และต้องวางในที่ที่โดนแดดแต่ไม่โดนแดดโดยตรง ส่วนตรงพื้นควรคลุมด้วยเปลือกไม้หรือตะไคร่น้ำเพื่อให้มีความชุ่มชื่นนั่นเองค่ะ
การให้อาหารซาลาแมนเดอร์
มากันที่เรื่องอาหารกันบ้าง ในการให้อาหาร คุณควรให้อาหารซาลาแมนเดอร์แค่วันละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะตอนกลางคืน เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน และถ้าหากเจ้าซาลาแมนเดอร์สัตว์เลี้ยงของคุณเป็นสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่บนบก พวกแมลง จิ้งหรีด หนอนใยอาหาร หนอนทูบิเฟ็กซ์ และหนอนขาวจะเป็นอาหารหลักของพวกเขานั่นเองค่ะ!
ค่ารักษาพยาบาลเมื่อซาลาแมนเดอร์ป่วย
โดยปกติแล้วเราควรตรวจสุขภาพของซาลาแมนเดอร์อยู่เสมอ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่สำคัญที่อาจเป็นอันตรายต่อสัตว์เลี้ยงของคุณ การพาเจ้าซาลาแมนเดอร์ไปพบสัตว์แพทย์ทุกเดือนจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตของซาลาแมนเดอร์ โดยงบประมาณการดูแลรักษาสุขภาพก็จะตกอยู่ที่ประมาณเดือนละ 1,750 บาท สำหรับการตรวจสุขภาพซาลาแมนเดอร์ของคุณค่ะ
ลักษณะและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของที่เหมาะสม
จริง ๆ แล้วเจ้าซาลาแมนเดอร์ไม่ได้เป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายเหมือนสุนัขหรือแมว เพราะพวกมันไม่มีเสียงร้อง ดังนั้นเราจึงต้องใช้ความเข้าใจมาก ๆ และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถเลี้ยงซาลาแมนเดอร์ได้ มาดูกันดีกว่า ว่าคนแบบไหนที่เหมาะกับการเลี้ยงเจ้าตัวนี้!
- เหมาะสำหรับคนที่หาสัตว์เลี้ยงตัวแรก เพราะซาลาแมนเดอร์เป็นสัตว์ที่เลี้ยงค่อนข้างง่าย จึงเหมาะกับคนที่ยังไม่เคยเลี้ยงสัตว์ค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความจะซื้อมาเลี้ยงแบบไม่ศึกษาได้นะ!
- เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาว่างแค่ช่วงกลางคืน เพราะซาลาแมนเดอร์เป็นสัตว์ที่ออกหากินตอนกลางคืน ดังนั้นตอนกลางวันพวกมันจะนอน ทำให้เราไม่ต้องใส่ใจดูแลพวกมันมากในตอนเช้า
ถึงจะเป็นสัตว์ที่แปลกไปสักหน่อย แต่น้อง ๆ ก็น่ารักไม่แพ้สัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ๆ เลยล่ะค่ะ หวังว่าทุกคนจะรู้จักและรักน้องกันมากขึ้นนะคะ
คำถามที่พบบ่อย
Q: ซาลาแมนเดอร์มีพิษไหม?
A: มี แต่เฉพาะบริเวณผิวหนังเท่านั้น โดยส่วนมาก ซาลาแมนเดอร์ในกลุ่ม Newt จะมีต่อมพิษบริเวณผิวหนัง เพื่อป้องกันตัวเองออกจากผู้ล่า ฉะนั้นหากคุณบังเอิญสัมผัสกับซาลาแมนเดอร์ อย่าลืมล้างมือให้สะอาดหลังจากนั้นและหลีกเลี่ยงการขยี้ตาหรือสัมผัสปากเพื่อป้องกันการระคายเคือง
Q: ซาลาแมนเดอร์กัดไหม?
A: ซาลาแมนเดอร์สามารถกัดได้แม้ว่าจะไม่ค่อยกัดกัน เนื่องจากพวกมันขี้อายและมักจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ในกรณีส่วนใหญ่ซาลาแมนเดอร์จะกัดก็ต่อเมื่อมันเข้าใจผิดว่ามือของคุณเป็นอาหาร แม้ว่าฟันซี่เล็ก ๆ ของพวกมันจะไม่ค่อยทะลุผิวหนัง ให้ทำความสะอาดบาดแผลทันทีและคอยสังเกตสัญญาณของการติดเชื้อ
Q: ซาลาแมนเดอร์หูหนวกหรือเปล่า?
A: ซาลาแมนเดอร์สามารถได้ยินเสียง ถึงแม้ว่าจะไม่มีหูชั้นนอกหรือหูชั้นกลางแก้วหูก็ตาม
Q: ซาลาแมนเดอร์ เป็นสัตว์ผิดกฎหมายไหม?
A: แล้วแต่สายพันธุ์ แต่กรณีที่มีข้อพิพาทมากที่สุดคือซาลาแมนเดอร์ยักษ์จีน ที่เป็นสัตว์ในบัญชีอันดับ 1 ของไซเตส หรือมีระดับความคุ้มครองเข้มงวดที่สุด ห้ามทำการซื้อขายโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะทำไปเพื่อ ‘การศึกษา วิจัย หรือเพาะพันธุ์ ทว่าชาวจีนบางคนยังมีการนำมาใช้ปรุงอาหาร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
AUTHOR : MEW
2023, FEB 03