No products in the cart.

7 วิธีมูฟออนเมื่อสัตว์เลี้ยงจากไป

แชร์ :

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ PetPlease เชื่อว่าทุกคนก็อยากให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่กับเราตลอดไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว สักวันหนึ่งสัตว์เลี้ยงของเราไม่ช้าก็เร็วก็ต้องจากกันไปอยู่ดี ถึงแม้ความจริงจะโหดร้าย แต่เราเชื่อว่าทุกคนจะผ่านมันไปได้ค่ะ วันนี้ PetPlease อยากมาแนะนำ “7 วิธีมูฟออนเมื่อสัตว์เลี้ยงจากไป” ให้กับทุกคนที่เพิ่งเสียสัตว์เลี้ยงแสนรักไป หวังว่าทุกคนจะกลับมารู้สึกดีได้ไว ๆ นะคะ

บทความนี้ขอนำเสนอ

  • อาการก่อนสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราจะจากไป 
  • วิธีมูฟออนเมื่อสัตว์เลี้ยงจากเราไป 

อาการก่อนสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราจะจากไป 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

เป็นธรรมชาติของสัตว์เมื่อพวกเขาใกล้จะจากไป มักจะมีอาการแสดงออกมาให้เราได้รับรู้ เช่น 

สุนัข

  • ระบบหายใจ ก่อนที่สุนัขกำลังจะตาย ตั้งแต่ 2-3 วันไปจนถึง 2-3 ชั่วโมงสุดท้าย สุนัขจะมีอาการหายใจไม่เต็มปอด และมีช่วงหยุดระหว่างลมหายใจที่ยาวนาน อัตราการหายใจของสุนัขตามปกติคือ 22 ครั้งต่อนาทีอาจจะลดเหลือ 10 ครั้งต่อนาที
  • ระบบทางเดินอาหาร ถ้าหากสุนัขกำลังจะตาย มันจะแสดงอาการเบื่ออาหารที่ชัดเจน มันจะไม่ยอมกินข้าวและดื่มน้ำเลย และอวัยวะในร่างกาย เช่น ตับและไตจะหยุดทำงานทำให้สุนัขไม่สามารถย่อยอาหารได้เมื่อมันใกล้ตาย
  • การปัสสาวะและอุจจาระที่ควบคุมไม่ได้ สุนัขจะปัสสาวะและอุจจาระโดยไม่รู้ตัวเมื่อใกล้ตาย แม้แต่สุนัขที่มีระเบียบหรือถูกฝึกฝนมาดีก็จะมีอาการเหล่านี้
  • ผิวของสุนัข ผิวของสุนัขจะแห้งและไม่กลับสู่สภาพเดิมเมื่อเราหยิกมัน เพราะการขาดน้ำที่เยื่อบุผิว เช่น เหงือกและริมฝีปากจะมีสีซีด เมื่อกดอวัยวะเหล่านี้ มันจะไม่กลับมามีสีชมพูตาม ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม

แมว

  • จับชีพจร ยิ่งหัวใจเต้นช้าลง ก็แปลว่าแมวกำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ และจากไปในที่สุด แมวสุขภาพดีจะมีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 140 – 220 ครั้งต่อนาที (bpm) ถ้าแมวป่วยหนักหรืออ่อนแอมาก หัวใจจะเต้นช้าลงกว่าปกติเยอะ เป็นสัญญาณบอกว่าใกล้ถึงเวลาที่เขาจะจากไปแล้ว
  • สังเกตลมหายใจ แมวที่สุขภาพดีจะหายใจ 20 – 30 ครั้งต่อนาที แต่ถ้าหัวใจแมวเริ่มอ่อนแอ ปอดจะด้อยประสิทธิภาพลง ออกซิเจนก็สูบฉีดเข้ากระแสเลือดได้น้อย ทำให้แมวหายใจรัวเร็วเพราะขาดออกซิเจน ตามด้วยหายใจช้า หอบ เพราะปอดเต็มไปด้วยของเหลว หายใจยากกว่าปกติ
  • วัดอุณหภูมิร่างกาย แมวสุขภาพดีจะมีอุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ 37.7 – 39 องศา แต่ถ้าแมวใกล้ตาย ตัวจะเย็นลง นั่นเพราะพอหัวใจอ่อนแอ อุณหภูมิร่างกายก็จะต่ำลงจนต่ำกว่า 37.7 องศา
  • สังเกตพฤติกรรมการกินและดื่มน้ำ แมวใกล้ตายมักไม่กินอาหารและดื่มน้ำ เพราะงั้นให้ลองสังเกตดูว่าชามอาหารและชามน้ำของแมวพร่องไปบ้างไหม นอกจากนี้แมวอาจมีอาการอะนอเร็กเซีย (anorexia) เช่น ผอมกะหร่องเพราะน้ำหนักลด หนังหย่อน และตาลึกโหล
  • กลิ่นตัวแรงขึ้น เมื่ออวัยวะต่าง ๆ ของแมวทยอยหยุดทำงาน ก็จะเกิดของเสียและสารพิษต่างๆ สะสมในร่างกายจนเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เมื่อแมวของคุณใกล้ตาย ลมหายใจและร่างกายอาจมีกลิ่นฉุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะร่างกายไม่สามารถขจัดของเสียและขับพิษได้อีกต่อไปนั่นเอง
  • พาแมวไปหาหมอ ถ้าแมวคุณมีสัญญาณบอกว่ากำลังป่วย ให้รีบพาไปหาหมอทันที เพราะบางทีอาการร่อแร่ของแมวก็เป็นอาการป่วยหนักที่ยังอาจรักษาทันถ้าถึงมือหมอเร็วพอ อย่าเพิ่งด่วนถอดใจว่าแมวมีอาการต่างๆ แปลว่าตายแน่แล้ว บางทีอาจยังพอมีหวังก็ได้

วิธีมูฟออนเมื่อสัตว์เลี้ยงจากเราไป 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

ยอมรับความรู้สึกตัวเอง 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

สิ่งแรกที่จะทำให้เรารับมือกับการสูญเสียสัตว์เลี้ยงได้ดีที่สุด คือ การยอมรับความรู้สึกของตัวเองค่ะ หลีกเลี่ยงการเก็บความรู้สึกไว้ข้างในคนเดียว เพราะจะยิ่งทำให้ระยะเวลาในดารทำใจยืดเยื้อออกไปอีก ซึ่งจริง ๆ แล้วการปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเสียใจ ร้องไห้ หรือระบายความรู้สึกออกไปบ้าง จะทำให้ทำใจได้ง่ายกว่า แต่จะใช้เวลามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ทั้งนี้ความรู้สึกเศร้าอาจจะวนกลับมาอีกครั้งหรือเป็นช่วง ๆ ได้ เช่น เวลาที่มีคนพูดถึง เวลาเราเห็นสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตาย หรือวันครบรอบหรือวันพิเศษ เป็นต้นค่ะ

พูดคุยกับคนที่เคยสูญเสียสัตว์เลี้ยงเหมือนกัน 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

การพูดคุยกับคนที่เข้าใจหรือเคยเจอกับเหตุการณ์สูญเสียสัตว์เลี้ยงมาก่อนถือเป็นวิธีที่ดีค่ะ ในตอนแรกให้เราลองมองหาเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัว แล้วเล่าเรื่องราวที่ต้องเผชิญให้เขาฟังก่อน แต่ถ้าหากคนรอบตัวไม่เข้าใจ ก็ให้ลองมองหาคนอื่นที่เคยมีประสบการณ์เหมือนกัน เช่น กลุ่มสัตว์เลี้ยง เว็บบอร์ด หรือแม้กระทั่งสายด่วนปรึกษาปัญหาต่าง ๆ เพราะจะช่วยให้เราได้ระบายความรู้สึก พร้อมทั้งได้รับกำลังใจและคำแนะนำดี ๆ อีกด้วย 

พยายามอย่าโทษตัวเอง 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

เป็นเรื่องปกติเมื่อเราสูญเสียอะไรสักอย่างไป เราจะต้องโทษตัวเองก่อน คิดว่าเราเลี้ยงเขาไม่ดีบ้าง ดูแลเขาไม่ดีพอบ้าง โทษตัวเองไปต่าง ๆ นา ๆ แต่การโทษตัวเองไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ ให้เรายอมรับความจริงแล้วเดินหน้าต่อไปดีกว่า 

เขียนความรู้สึกลงบนกระดาษ 

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

หากเราไม่สบายจะระบายให้ใครฟัง ไม่อยากให้เขาเครียดไปด้วย การเขียนระบายความรู้สึกของเราบนกระดาษ ก็เป็นวิธีระบายความเศร้าอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นค่ะ 

เวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

ในช่วงแรกที่เราสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่เรารักไป สมองหรือความคิดของเราอาจจะยังปรับตัวไม่ทันกับความสูญเสีย เราอาจตกใจที่ตื่นขึ้นมาและบ้านดูว่างเปล่า เพราะไม่มีเขา และด้วยความคุ้นเคยที่เกิดขึ้นเป็นประจำอาจจะทำให้เราหูแว่วว่าได้ยินเสียงสัตว์เลี้ยง หรือตาฝาดว่าเห็นเขาเดินผ่านทางหางตา พยายามอย่าวิตกและกังวลมากเกินไป เวลาจะช่วยให้เราปรับตัวได้และอาการที่เกิดขึ้นก็จะหายไปเองเมื่อเราทำใจได้ 

อย่ารีบร้อนรับสัตว์อื่นมาเลี้ยง

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

ถึงแม้ว่าบ้านของเราจะเงียบเหงาและว่างเปล่าขนาดไหน แต่ก่อนจะรับสัตว์ตัวใหม่มาเลี้ยง เราควรใช้เวลาผ่านความเศร้าและความเสียใจให้ได้ก่อน เพื่อป้องกันความสับสนหรือปัญหาที่อาจจะตามมา เช่น การไม่พอใจสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ หรือความรู้สึกผิดกับสัตว์ตัวเก่านั่นเองค่ะ

สร้างความทรงจำ

coping death your pet มูฟออน หมาตาย แมวตาย

  การทำสิ่งของเป็นที่ระลึกเพื่อสร้างความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของเรา ไม่ว่าจะเป็นการทำหลุมฝังศพ เก็บกระดูกไว้ในบ้าน ทำอัลบั้มรูปพิเศษ เขียนไดอารี่ความทรงจำ ทำอัญมณีจากกระดูก หรือเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีและควรทำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ความทรงจำในหัวจับต้องได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติสัตว์เลี้ยง เป็นการเก็บรวบรวมความสัมพันธ์ และเป็นการระบายความรู้สึกช่วยให้เปิดใจไปในตัว และทำให้เรามูฟออนและทำใจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย! 

คำถามที่พบบ่อย 

Q: ดูยังไงว่าแมวแก่?

A: ขนและผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ ดูอายุแมวได้คร่าวๆ โดยลูกแมวจนถึงแมวที่อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็ก นุ่ม ส่วนแมวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีเส้นขนที่หนาและหยาบขึ้น และสุดท้ายแมวที่อายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป อาจจะมีขนหงอกหรือขนสีซีดๆ แซมอยู่ตามตัวเหมือนกันผมหงอกของคนนั่นเอง

Q: แมวมีอายุขัยนานกี่ปี? 

A: แมวมีอายุขัยนานถึง 12 – 18 ปีค่ะ 

Q: สุนัขมีอายุขัยนานกี่ปี?

A: สุนัขมีอายุขัยนานถึง 12 – 18 ปีค่ะ 

PetPlease ขอให้ทุกคนที่กำลังเผชิญกับความเศร้าเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่เพิ่งเสียไป ผ่านเรื่องราวนี้ไปให้ได้นะคะ ลองใช้ 7 วิธีที่เราแนะนำไป รับรองว่าจะมูฟออนได้แน่นอน!  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

AUTHOR: MEW

2023, JAN 19

บทความอื่นๆ

พื้นที่จำกัดเลี้ยงสัตว์อะไรดี!? สัตว์เลี้ยงน่ารักสำหรับคนพื้นที่น้อย
รู้ไหม? ม้าชอบการกรูมมิ่ง!
สายมูมาทางนี้! เปิดประวัติแมวกวัก แมวนำโชคของญี่ปุ่น
สุนัขในการ์ตูน เป็นสายพันธุ์อะไรบ้างนะ?
มาฝึกกระต่ายเพื่อนซี้หูยาวเข้าห้องน้ำกันเถอะ!
อยากให้ลูกเลี้ยงสัตว์เริ่มต้นจากอะไรดี ?